ทำไมไม่เห็นเรา

เขียนโดย unbeen 10/09/2022

                  เชื่อว่าหลายๆคน คงจะเคยได้ยินคำที่พ่อแม่ท่านบอกอยู่เป็นประจำ   'ค่ำมืดแล้วเข้าบ้านนะลูก'    'ดึกแล้วอย่าออกไปเล่นข้างนอกนะ'      เป็นคำที่ผมได้ยินมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ในตอนนั้น ความเป็นเด็กทำในผมหลงลืมคำสอนของพ่อแม่ไป ทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ผมไม่มีวันลืม 
สวัสดีนักอ่านทุกคนที่เข้ามาอ่านนะครับ    ผมชื่อต้นนะครับ    เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่ผมประสบพบเจอมากับตัวเอง    บางส่วนของเนื้อหาอาจมีการปรับแต่งเพื่อให้เข้าเนื้อเรื่องมากที่สุดครับ   เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปสมัยตอนผมยังเป็นเด็ก ตอนนั้นผมน่าจะอยู่ประมาณ ม. 1-2  วันนั้นเป็นวันธรรมดาของเด็กทุกคนที่จะต้องไป รร. ผมก็ไปเรียนตามปกติ พอตกเย็น รร. เลิกเรียนแล้วผมก็เดินออกจาก รร.   ไปขึ้นรถรับส่งนักเรียนเพื่อที่จะกลับบ้าน    ต้องบอกก่อนว่า ผมเป็นคนที่ค่อนข้างขยันมาก   เวลามีการบ้านอะไร ผมจะทำให้เสร็จจากที่ รร. เวลากลับบ้านมา ผมจะได้เล่นกับเพื่อนอย่างเต็มที่   พอถึงบ้าน  ย่าของผมก็ทำกับข้าวไว้รอแล้ว  ผมก็อาบน้ำเพื่อที่จะได้มากินข้าวพร้อมกับย่า
ต้น     "หึมมม กับข้าวน่ากินมากเลยครับ"
ย่า        "งั้นก็กินเยอะๆนะ"      "วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง การบ้านเยอะมั้ย"
ต้น        "ก็เหมือนเดิมแหละย่า การบ้านผมก็ทำเสร็จตั้งแต่อยู่ รร.แล้ว"
ย่า         "ดีแล้วๆ ถ้ามีการบ้าน ย่าก็จะช่วยสอนไง หลานเอ้ย'
ต้น        "ครับๆ,   ย่าครับ ผมกินข้าวเสร็จแล้ว ขอออกไปเล่นกับเพื่อนข้างนอกนะครับ"
ย่า        "นี่ก็จะ 5 โมงแล้วนะ ยังจะออกไปเล่นอีกหรอ"
ต้น         "แปปเดียวเองย่า เดี๋ยวก็กลับ"
ย่า          "อย่าให้ได้ไปตามนะ ถ้าให้ไปตามเดี๋ยวมีเจ็บตัว"
ต้น          รู้แล้วย่า!!!
จากนั้นผมก็ออกไปหาเพื่อนๆ  เพื่อนของผมนั้นได้รอผมที่บึงเรียบร้อยแล้ว บึงที่ผมไปเล่นกับเพื่อนๆอยู่ห่างจากบ้านไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งย่าผมเดินมาตามผมไหวแน่นอน 
เต้              "มาช้าจังนะมึงอะ"
ต้น             "ก็กูแดกข้าวอยู่     กูมาช้าหน่อยไม่ได้เลยหรอเพื่อน"    (ปกติผมเป็นคนพูดคำหยาบมาตั้งแต่เด็กแล้ว)
ปอน          "วันนี้เราจะเล่นไรดีวะ"
คิว             " วิ่งไรจับดีปะ"
เจม             "เล่นแม่งทุกวันไม่เบื่ออ่อ"
ทุกคน         "กูไม่นะ  ฮ่าๆๆๆๆๆ"
ต้น              "หรือว่าซ่อนแอบดี"
ทุกคนมองมาที่ผม เหมือนผมเป็นตัวประหลาดงั้นแหละ
ปอน            "เอาปะละ อยากลองเหมือนกัน ตอนกลางคืนเนี่ย"
เต้                "แม่กูไม่ให้เล่นซ่อนแอบตอนกลางคืนวะ"
ปอน          "  งั้นมึงก็ไปชวนแม่มึงมาเล่นด้วยดิ"
ทุกคน        "ฮ่าๆๆๆๆๆ"
เต้               "ขำห่าไรกัน"
คิว             " มึงกลัวหรอวะไอเต้"
เต้                "มาดิ กูไม่กลัวหรอก"
จากนั้นทุกคนก็เป่ายิ้งฉุบกันว่าใครจะได้เป็นคนหา    
คิว             "เห้ยไอเจมเป็นวะ"
ต้น            "ไปเลยมึงไปนับเดี๋ยวนี้เลย นับ 1-50"
ต้องบอกก่อนว่าที่ที่ผมกับพวกเพื่อนๆ เล่นซ่อนแอบกันคือ บริเวณริมบึง ในบริเวณนั้นก็จะเป็นที่สำหรับคนมาออกกำลังกาย ส่วนใหญ่ก็จะมีแต่คนแก่   แล้วก็เครื่องเล่นสำหรับเด็กทั่วๆไป  แล้วข้างๆสนามเด็กเล่นก็จะเป็นป่ารกๆ มีแต่เศษแก้ว   ขยะที่ส่งกลิ่นโชยมาอยู่เรื่อยๆ   ศาลไม้เก่าๆ ที่คนมาทิ้งไว้ไม่รู้ตั้งแต่ชาติปางไหน    ถ้าคนที่ไม่เคยมา มาเห็นตอนกลางคืน คงจะหนีกระเจิง
เจม           1      2       3        4       5...........
ปอน         "เห้ยๆ  รีบไปแอบเร็ว"
เต้              "มึงอย่ามาแอบที่เดียวกับกูดิ    มึงไปเลยไอคิว"
คิว            "มึงหวงที่หรอวะ    กูไม่มีที่แอบแล้ว"
ในขณะที่ทุกคนกำลังหาที่แอบอยู่นั้น   ผมก็ได้หันไปเจอศาลไม้  ที่อยู่ข้างๆสนามเด็กเล่น   ในตอนนั้นผมคิดว่า   ผมจะต้องป็นฮีโร่ของเพื่อนๆ  อยู่เป็นคนสุดท้ายให้ได้    ผมเลยมุดตัวของผมเข้าไป แอบอยู่ข้างๆ  ศาลไม้   หักกิ่งไม้แถวนั้นมาพรางตัวอีกชั้นเพื่อความแนบเนียน    
"ให้ตายยังไงก็หากูไม่เจอหรอก   ฮ่าๆๆๆ"       ผมคิดในใจ
เจม         " โป้งไอเต้      โป้งไอคิว"
เต้           " กูบอกแล้วว่าอย่าแอบที่เดียวกับกู   "
เจม         " โป้งไอปอน"
คิว           " ไอต้น!!!!     มึงออกมาแปะไอเจมดิ๊"
ในตอนนั้นผมรู้แล้วว่าผมเหลือเป็นคนสุดท้าย   คิดไว้อยู่แล้วว่าแอบตรงนี้แม่งโคตรเนียน   ยังไงพวกมันก็หาผมไม่เจอ    ผมกำลังจะออกจากที่แอบอย่างเนียนๆ   เพื่อที่จะไปแปะไอเจม     เพราะว่ามันเริ่มเดินมาใกล้ๆ ศาลแล้ว   
เจม         "โป้งไอต้น   ไอต้นมึงไปแอบตรงนั้นได้ยังไงวะ  แม่งโคตรเนียนเลย"
เต้           " เออ   ทำไมกูไม่เห็นมึงไปแอบตรงนั้นเลยวะ"
ปอน        "มึงไปแอบตรงนั้นตอนไหนวะ"
ผมเชื่อว่าทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้   อาจจะคิดว่าเรื่องที่ผมเล่าเป็นเรื่องทั่วๆไป   เล่นซ่อนแอบตอนกลางคืน   แล้วเพื่อนก็หาคนที่แอบไม่เจอ   บลาๆๆๆ     แต่อยากให้ทุกคนฟังสิ่งที่ผมเล่าต่อจากนี้     ตอนนี้ผมกำลังแอบอยู่ข้างๆศาลไม้   แต่ไอเจมมันโป้งผมทั้งที่มันยังไม่เห็นผมด้วยซ้ำ 
ที่แรกคิดว่ามันโป้งมั่ว    แล้วหลอกให้ผมเดินออกไป   จะได้โป้งผมจริงๆ   แต่สิ่งที่ผมเห็นคือ
ผมเห็นตัวเองเดินออกมาจาก ต้นไม้ที่อยู่ข้างๆ   เครื่องออกกำลังกาย   ทำเอาผมในตอนนั้นขนลุกแบบสุดขีด   คนที่เดินออกมาจากต้นไม้นั้นหน้าตาคล้ายคลึงกับผมมาก     ผมเลยตะโกนออกไปจากที่ผมกำลังแอบอยู่    ว่านั่นไม่ใช่ผม    แต่เหมือนว่าเสียงของผมนั้นมันไม่ออกมาจากลำคอเลย    ผมรู้สึกกลัวมากๆ  เพราะไอตัวที่มันหน้าตาเหมือนผม    มันหันมาทางผมแล้วยิ้มให้ผมด้วย      ผมกลัวจนแทบจะร้องให้ออกมา    และที่สำคัญเลยคือ   ผมขยับตัวออกจากที่นั่นไม่ได้เลย    ร้องก็ไม่ออก
สิ่งที่ผมเจอมันคืออะไร   ผีหรอ   หรืออะไร   ตอนนั้นผมรู้สึกสับสนไปหมด    แต่ที่แน่ๆคือผมจะออกไปจากตรงนี้ยังไง    แล้วรู้สึกว่าจะได้ยินเหมือนไอคนนั้น    มันชวนเพื่อนผมกลับบ้าน      ผมก็ตะโกนไปอีกรอบ
ต้น            "เห้ย!!!!!!!!     กูอยู่นี่โว้ย......    นั่นไม่ใช่กู"
ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วตะโกนไปก็ไม่มีใครได้ยิน    เพื่อนผมทุกคนก็พากันเดินกลับบ้าน  กับไอตัวที่มันหน้าตาเหมือนผม    ผมร้องไห้ออกมาอย่างหมดหวัง    นี่ผมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย     บอกตัวเองเลยว่าเราจะไม่มาเล่นแบบนี้อีกแล้ว    ผมด่าตัวเองที่เป็นคนชวนคนอื่นมาเล่น    แต่ตัวเองมาโดนซะเอง    หลังจากนั้นไม่นาน ผมเห็นลุงคนนึงเหมือนว่าจะมาออกกำลังกาย   ผมเลยตะโกนไปอีกรอบด้วยแรงที่ผมเหลืออยู่
ต้น         "  ลุง!!!!!!      ช่วยผมด้วย   ผมอยู่ตรงนี้"
และเหมือนว่าโชคจะเข้าข้างผม
ลุง           "เอ้าไอหนุ่ม    เอ็งเข้าไปได้ยังไง"
ต้น          "ไว้ค่อยเล่าลุง    ช่วยผมออกไปก่อน"
ทันทีที่ผมออกมารู้สึกดีใจแบบสุดๆ   เช็ดคราบน้ำตาที่ไหลเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง    แล้วเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่ผมเจอให้ลุงเขาฟัง    แต่ลุงก็ให้คำตอบผมไม่ได้    
ลุง        "ที่เอ็งเห็น หน้าตาเหมือนกับเอ็งเลยหรอไอหนุ่ม"
ต้น       "ใช่ครับ   หน้ามันเหมือนผมมากเลยครับ"
ลุง        "ใช่แบบนี้รึป่าว"
สิ่งที่ผมไม่คิดจะเจออีก    มันมาอีกแล้ว     ทันทีที่ลุงถามผมแล้วหันหน้ามามองผม    ใจผมตกไปส่วนล่างของร่างกายแล้ว    ลุงแม่งหน้าเหมือนผมเป๊ะเลย    ยิ้มออกมาอย่างหน้าสยดสยอง   กำลังจะวิ่ง
อยู่ละ    แต่ขาผมก้าวไม่ออก    ขาแข็ง ตัวสั่นไปหมด     คิดในใจนะ   "นี่กูเจออีกแล้วหรอวะ"
แล้วอยู่ดีๆ  ลุงแม่งเอามือมาจับแขนผม    มือเย็นเฉียบ    แล้วเหมือนแกหัวเราะในลำคอเลย
ได้ยินแล้วขนลุก    ผมรวบรวมความกล้าสบัดแขนออก      จากนั้นวิ่งแบบสุดแรงเกิด  ไม่สนแล้วว่าอะไรจะเกิดขึ้น   ขอแค่ออกมาจากตรงนั้นได้ก็พอ   พอผมถึงบ้านย่าก็ถือไม้เรียวรอผมไว้แล้ว   
แต่ผมไม่ได้กลัวย่าตีนะ    ผมกลัวสิ่งที่เจอเมื่อกี้มากกว่า    ผมเล่าทุกอย่างให้ย่าฟัง   ย่าผมบอกว่าสิ่งที่ผมเจออาจจะเป็นสัมภเวสีแถวนั้น    ไปอยู่ในที่ของเขา   เขาก็เลยหลอกเอา    สุดท้ายย่าก็ไม่ได้ตีผมนะครับ   แต่แกบอกว่าอย่าไปเล่นแถวนั้นอีก    มันอันตราย   หลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ไปเล่นแถวบึงอีกเลย   

**************************************************************************************************

นี่คือนิยายเรื่องแรกของผมเอง  ถ้านักอ่านอยากให้ผมปรับปรุงตรงไหน  ก็คอมเมนต์ติชมกันได้นะครับ

ขอบคุณครับ

   



แสดงความคิดเห็น



ความคิดเห็น


บทความนี้ยังไม่มีคนแสดงความคิดเห็น