เช้านั้นที่โรงแรมเรือนไทย

เขียนโดย อภูตะ 06/05/2022

เกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนตุลาปี 2560 กับการไปเที่ยวตลาดน้ำแห่งหนึ่ง เราได้จองที่พักแห่งหนึ่งที่สร้างจากไม้เก่านำมาสร้างเป็นเรือนไทย ตามประวัติคือไม้เก่าเป็น 100 ปี ด้วยความที่เป็นสถานที่ฮิตมากๆจนทำให้ได้จองได้แค่ 1 คืนเท่านั้น ทั้งที่ตั้งใจพัก 2 คืน ซึ่งหลังจากเหตุการณืนั้นทำให้เราเลี่ยงที่จะพักโรงแรมแบบนี้ไปเลย

เรากับแฟนเดินทางออกจากกรุงเทพในช่วงเช้า ระหว่างทางเรากับแฟนก็แวะไหว้พระตามวัดต่างๆตามเส้นทางที่ผ่าน ส่วนมากในจังหวัดนั้นจะเป็นวัดเก่าเยอะมากๆ วันนั้นไหว้ทุกวัดไม่ว่าวัดเล็กหรือวัดใหญ่ไปหมด ใจเต็มไปด้วยบุญที่ได้ทำมากๆ

จนได้เวลาเชคอินเข้าที่พักช่วงบ่ายโมง ที่พักจะอยู่ลึกจากถนนใหญ่พอสมควร อยู่ช่วงท้ายๆตลาดน้ำ บรรยากาศเงียบ เต็มไปด้วยต้นไม้ แต่ที่พักไม่ได้ใหญ่มากมีประมาณ 10 กว่าห้อง ซึ่งก็เต็มทุกห้อง ที่พักไม่ไกลจากตลาดมากเดินไปสบายๆ ช่วงเวลาที่เข้าพักฝนก็ตกเบาๆทำให้ที่มีกลิ่นหอมของดอกกาสะลองที่อยู่ห้องเราพอดี ห้องพักเราอยู่ชั้นสองตรงบันไดทางขึ้น ห้องพักมีขื่อตามแบบบ้านเรือนไทย ตอนนั้นพอเข้าห้องดูเงียบเสียงตัดขาดจากข้างนอกก็ไม่ได้แปลกใจอะไร

ช่วงบ่ายหลังฝนหยุดก็ไปเดินตลาดน้ำกลับมาก็ดึกแล้ว บรรยากาศในห้องคือนิ่งเงียบมากๆ เหมือนหลุดไปในห้องเก็บเสียงทั้งเป็นห้องไม้ที่ควรจะได้ยินเสียงนอกห้องคนเดินขึ้นลงบันได้หน้าแต่ก็ไม่ คืนนั้นหลับๆตื่นๆด้วยความรู้สึกเหมือนถูกเฝ้ามองจากใครบางคน แต่ก็ไม่มีอะไมากกว่านั้น แต่ความน่ากลัวมันเริ่มตอนเช้า

ตอนเช้าช่วง 6 โมง ลงไปใส่บาตรหน้าโรงแรม หลวงพ่อก็เดินรับมาเรื่อยๆ เราอยู่เกือบท้ายแถวที่มีน้องผู้หญิงสองคนปิดท้าย จนกระทั่งหลวงพ่อเดินถึงเราก็เปิดฝาบาตรขึ้นพร้อมมองมาที่เรา เราก็กำลังจะยกขนมใส่บาตร แต่หลวงพ่อกลับปิดฝาบาตรลงทันที พร้อมหน้าเลิ่กลั่กเดินหันหลังออกไปเลย เราก็งงทุกคนเรียกให้กลับมา แต่หลวงพ่อรีบเดินข้ามสะพานไปเลย แต่ก็คิดว่าบาตรหลวงพ่ออาจจะเต็มเลยกลับวัดดีกว่ามั้ง ปรากฏว่าข้ามฝั่งไปหลวงพ่อก็รับปกติเลย ทำให้คนฝั่งนี้ยืนงงกัน แต่หลังจากนั้นเราก็ได้ใส่กับพระอีกรูปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

หลังจากจบจากอาหารเช้าฝนก็ยังตกลงหนัก เลยขึ้นห้องพักกัน แฟนก็นอนใส่หูฟังเล่นเกมส์ไป เราดูทีวีไป จังหวะนั้นเหมือนเริ่มง่วงหนักตาขึ้นมา เลยล่ะสายตาจากทีวีแล้วมองขึ้นไปที่ขื่นที่ตรงกับเรานอนอยู่ จะด้วยความง่วงหรือตาลาย ตอนนั้นเราเห็นเงาผู้หญิงที่นั่งอยู่ขื่อห้องจ้องมองมาเราอยู่ หน้าตาโกรธมากๆ เรากำลังจะเรียกแฟนเงานั้นก็พุ่งลงมาที่เราทันที เงาพุ่งมาที่อกด้านซ้าย ด้วยสัญชาตญาณเราก็ยกมือฟาดเงาดำนั้นทันทีที่ลงตัวเราพร้อมตัวเราที่สะดุ้งเด้งตัวขึ้นมา

ด้วยเสียงฟาดของมือเราทำให้แฟนหันมามองเราทันที จังหวะนั้นคือเราใจเต้นตกใจมากๆ ขนลุกไปทั้งตัว เหมือนความเย็นของแอร์มันเย็นมากๆ และ มองไปที่ขื่ออีกครั้งก็ไม่เห็นอะไรแล้ว ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนไม่มีอะไร แต่มือที่ฟาดอกตัวเองก็ค้างอยู่จนแฟนมาดึงออกให้ ซึ่งตรงอกนั้นเป็นรอยแดงจากมือเราที่ฟาดลงไปแต่โชคดีคือเราเหน็บพระไว้ที่สายชั้นในด้วยเลยไม่มีอะไมากไปกว่านั้น แต่นั้นก็ทำให้เรารีบย้ายออกห้องทันทีแม้จะเหลือเวลาอีกหลายชั่วโมงก็ตาม  นั่นทำให้คิดไปถึงว่าทำไมหลวงพ่อรูปแรกถึงปิดฝาบาตรไม่รับของถวายเราท่านคงเห็นแต่ตอนนั้นแน่นอน 

เราคิดว่าวิญญาณนั้นคงอยู่ที่โรงแรมนั้นแต่แรกเริ่มแล้ว คงไม่ได้ตามเรามาจากวัดที่เราแวะทำบุญหรอก เพราะคืนที่สองเราไปพักอีกทีก็ไม่เจอเหตุการณ์แบบเดิมเลย เช้าอีกวันเราก็ทำบุญและเรียกเธอมารับผลบุญนั้นและหวังว่าจะไม่ต้องเจอกันอีกต่อไป สำหรับคนที่ไปพักตามโรงแรมต่างการไหว้เป็นสิ่งต้องทำนะคะ จะช่วยให้จิตใจสงบอะไรที่หนักก็อาจจะเบาบางลงได้ 

  



แสดงความคิดเห็น



ความคิดเห็น


บทความนี้ยังไม่มีคนแสดงความคิดเห็น