" เวรกรรม...แม้ว่าการกระทำจะเกิดจากเพื่อดำรงชีพก็ตาม กรรมก็คงทำงานของมันต่อไป "
เล่าถึงลุงเวก ชายวัย 50 ปีที่เป็นคนเชือดหมู วัวควายเวลามีงานบุญในหมู่บ้าน ลุงเวกจะถูกเรียกว่านักเชือดแห่งหมู่บ้าน ไม่ว่างานไหนเล็กใหญ่ถ้ามีการล้มวัวควาย จะเห็นลุงเวกเป็นนำอยู่เสมอ และเห็นเป็นแบบนี้มาตั้งแต่จำความได้
ครั้งหนึ่งตอนในห้องโรงเรียนประถม ทุกคนได้ยินเสียงแหลมเล็ก กรีดร้องดังออกมาจากป่าหลังโรงเรียน ดังโหยหวน จนนักเรียนไม่มีสมาธิ บางคนได้เสียงนี้ก็ร้องไห้ เสียงทรมาน โหยหวนมาก และเสียงก็เงียบหายไปมารู้ที่หลังว่ากลุ่มครูมีเตรียมกินเลี้ยงกันตอนค่ำเลยให้ลุงเวกมาล้มหมูให้ และเราเองก็จำเสียงกรีดร้องของหมูได้ติดหูมาจนถึงวันนี้ เด็กๆหลายคนกลัวลุงเวก ไม่กล้าเข้าใกล้แม้ว่าแกจะเป็นคนที่ตลกแต่เหมือนมีพลังบางอย่างทำให้น่ากลัว
หลังจากนั้นลุงเวกเริ่มป่วยแปลกๆ เช่น พอตกค่ำของวันโกน และวันพระ ลุงจะลุกไม่ได้ หนักตัว ปวดตัว ปวดหัวเหมือนโดนทุบ และพอกลางดึกจะร้องโหยหวนเหมือนวัวควายที่ถูกเชือด เป็นแบบนี้มาเป็นเดือน ปี แม้ว่าครอบครัวจะหาทางรักษา โรงพยาบาลก็หาสาเหตุไม่เจอ หรือ ทางหมอธรรม ก็ให้ทำใจและถือศีลเพื่อประคองอาการและห้ามฆ่าสัตว์น้อยใหญ่อีก
แต่ลุงเวกก็คือลุงเวกที่ไม่สนใจตรงนี้แม้ครอบครัวจะห้ามแค่ไหน ในวันปกติที่ไม่ป่วย แกก็คงเป็นมือเชือดของหมู่บ้านเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน และแล้วอาการก็เริ่มหนักขึ้นหนักขึ้นเรื่อยๆ ความปวดหัวสลับร้องโหยหวนจะเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึง 6โมงเช้าของอีกวัน ทั้งก่อนหน้านี้ อาการจะเริ่มดึกกว่านี้ นั่นคงเป็นสัญญาณบางอย่างที่เตือนลุงเวกให้หยุด แต่ลุงก็ไม่
ในที่สุดวันสุดท้ายของลุงเวกก็มาถึง ค่ำของวันพระใหญ่ อาการชักหนักขึ้น ครอบครัวจึงล่ามลุงเวกไว้กับเสาบ้าน ลุงที่เอาหัวไถไปกับดิน ดิ้นพล่านเหมือนสัตว์ที่ใกล้สิ้นใจ เสียงที่กรีดร้องออกมาเป็นเสียงหมู วัว และควายสลับกัน ไม่มีเสียงไหนที่เป็นลุงเวกเลย ยิ่งดิ้นยิ่งร้องเชือกก็ยิ่งรัด เลือดก็ไหล ชาวบ้านที่ไปอยู่เป็นเพื่อนในคืนนั้นต่างก็สงสารลุงเวกแต่เจ้ากรรมนายเวรก็แรงไม่น้อย
ในขณะที่ลุงเวกหยุดนิ่งไป อยู่ๆร่างลุงก็กระตุกสูงขึ้นเหมือนโดนยก แล้วแขนขาก็บิดไปคนล่ะทางอย่างผิดรูปร่าง หน้าตาลุงเวกเริ่มเปลี่ยนไป ตาแดงกล่ำ ทุกคนต่างก็กลัวและตกใจ เพราะทุกครั้งไม่เคยอาการหนักขนาดนี้ ในขณะที่ทุกคนตกใจอยู่นั้น ร่างลุงเวกก็คว่ำลงพร้อมคลานสี่ขาเงยหน้าขึ้นสูงพร้อมร้องโหยหวนยาวสุดเสียง จนกระทั่งกระอักเลือดออกมาทางปาก เลือดออกทุกทางไม่ว่า หู ตา ทวาร พุ่งออกมาพร้อมกัน และท้ายสุดร่างลุงเวกก็ฟุบลงเงียบเสียงไป และนั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ทรมาทรกรรมจนสิ้นลมหายใจ เป็นการเอาคืนของเจ้ากรรมนายเวรที่ทรมานและได้เห็นกับตาจริงๆแม้จะเป็นเด็กแต่ก็ยังจำได้ถึงทุกวันนี้
ในงานศพลุงเวก ครอบครัวนำมีดเชือดอุปกรณ์ต่างๆของลุงลงไปในโลงพร้อมเผาไปด้วยกัน จะได้จบสิ้นเวรกรรมต่อกันไป
** ตามที่หาข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับคนเชือด จะมีคาถาให้ท่องและถือศีลงดกินเนื้อเพื่ออุทิศเจ้ากรรมนายเวรในวันพระ แต่ลุงเวกไม่เคยทำนั่นเลยเป็นสาเหตุของเวรกรรมที่หนักอย่างที่เขียนมา **