พระราชวังจันทน์ คือ โบราณสถานที่ถูกขุดพบในจังหวัดพิษณุโลก อยู่บริเวณริมแม่น้ำน่าน ตรงข้ามกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธชินราช เดิมเป็นโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคมโรงเรียนชายล้วนประจำจังหวัด แต่หลังจากมีการค้นพบเศษซากของพระราชวัง โรงเรียนจึงต้องถูกย้ายออกเพื่อทำการขุดค้นและบูรณะพระราชวังเก่า
ในปี พ.ศ. 2548 โรงเรียนชายถูกย้ายออกจากพื้นที่โดยสมบูรณ์ พระราชวังถูกขุดขึ้นมาอีกหลายส่วน จึงพบว่าตัวพระราชวังนั้นกินพื้นที่กว้างมากและยังเชื่อมต่อกับโบราณสถานอื่น ๆ ในบริเวณใกล้เคียงที่มีอยู่เดิมไม่ได้ถูกฝังกลบอยู่ใต้ดินอีกด้วย

นอกจากความสำคัญทางประวัติศาสตร์แล้ว พระราชวังเก่านี้ยังมีเรื่องเล่าน่าขนลุกอยู่หลายเรื่องตั้งแต่สมัยยังเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด เหล่านักเรียนที่ทันได้ใช้พื้นที่ทางการศึกษาสมัยก่อนเล่าให้ฟังว่า มีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งดังในหมู่นักเรียนไปจนถึงยามและครูเวรที่เคยได้อยู่เลยเวลาจนพระอาทิตย์ตกดิน เรื่องของ ‘เงาดำของชายร่างใหญ่’
หลายครั้งที่มีคำบอกเล่าถึงเงาร่างอันน่ากลัวที่ไม่รู้ที่มาเดินไปทั่วโรงเรียน บ้างว่ามีหนึ่ง บ้างว่ามีนับสิบ แต่ทั้งหมดนั้นเป็นเพียงตำนาน จนวันที่รั้วรอบขอบวังถูกขุดขึ้นมาเหนือพื้นดิน เรื่องที่เคยว่าเป็นเพียงความสนุกปากของเด็กนักเรียนก็ดูจะมีมูลความจริงขึ้นมาเสียอย่างนั้น

ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงรวมไปถึงคนค้าขายและยามที่ถูกส่งให้มาเฝ้าพื้นที่ยามค่ำคืน จะได้ยินเสียงคล้ายโลหะกระทบกันอย่างรุนแรงดังอยู่ทั่วบริเวณพระราชวัง บางครั้งเป็นเสียงมหรสพที่ดังกังวานเหมือนมาจากที่ไกล ๆ แต่เมื่อเดินหาเท่าไหร่จะไม่เคยพบต้นตอของเสียงที่ได้ยินเลยสักครั้ง
เรื่องที่ชัดเจนที่สุดคงเป็นเรื่องเล่าของคุณตาวัยหลังเกษียณท่านหนึ่งที่ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนข้างโบราณสถาน ประสบการณ์ที่เขาไม่มีวันลืมลง ในเช้าวันหนึ่งที่มาวิ่งออกกำลังยามเช้าเหมือนปกติในทุก ๆ วัน แต่วันนั้นอากาศดีมากกว่าปกติเขาจึงวิ่งให้ไกลกว่าที่เคย จนเลยเข้ามาในเขตพระราชวังที่ตอนนั้นถูกสร้างถนนไว้อย่างดีแล้ว พร้อมให้ผู้คนเข้าชม

ด้วยอายุที่มากทำให้สายตาของเขาไม่สามารถมองอะไรได้อย่างชัดเจนมากนักในเวลาที่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นเช่นนี้ จากคำบอกเล่าในวันนั้นเขาได้เห็นเงาร่างสูงใหญ่วิ่งสวนไปมาอยู่หลายครั้ง แต่ยังคงคิดว่าเป็นเพียงผู้ที่มาออกกำลังกายเหมือนกับเขาเท่านั้น เงาสีดำนั้นตัดผ่านสายตาไปหลายครั้งจนผู้เห็นเริ่มแปลกใจ
เมื่อคิดได้อย่างนั้นเขาจึงหยุดมองเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่เขาเห็นนั้นคืออะไร ทั่วขอบเขตของคลองสายตาปรากฏเงาร่างสีดำทะมึนมากมายเคลื่อนไหวโอนเอนอย่างรีบร้อนคล้ายผู้คนที่กำลังวิ่งหนีอะไรบางอย่าง มันคงไม่ใช่ภาพที่น่ากลัวเท่าไหร่ถ้าเงาร่างพวกนั้นไม่วิ่งทะลุผ่านกำแพงและต้นไม้ใหญ่ไปต่อหน้าต่อตา อีกทั้งเงาร่างบางตนยังไม่สมประกอบ ภาพที่จำได้ติดตาคือร่างสีดำสนิทที่เหนือคอขึ้นไปไม่มีเงา

เมื่อได้สติจึงรีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตด้วยความกลัว ทุกขณะที่พยายามออกจากบริเวณนั้นเขาได้ยินเสียงกระทบกันของเหล็กจำนวนมากคล้ายการปะทะกันของดาบ เสียงฝีเท้า เสียงร้องครวญครางอย่างทุกข์ทรมานของผู้ตกค้างอยู่ในที่แห่งนั้น
หลังจากเขาเล่าเรื่องนี้ให้ใครหลาย ๆ คนฟัง ก็พบว่ามีผู้คนอีกมากที่ได้สัมผัสเรื่องราวใกล้เคียงกับตัวเขา และทุกคนลงความเห็นตรงกันว่าน่าจะเป็นเสียงของเหล่าวิญญาณทหารกล้าทั้งหลายที่ยังวนเวียนทำหน้าที่และจมอยู่ในห้วงทรมานของไฟสงครามครั้งนั้น

ทุกวันนี้หากมีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมเยียนพระราชวังจันทน์ จะเห็นได้ว่าตามหลืบมุมของโบราณสถานยังคงมีถ้วยชามของเซ่นไหว้และก้านธูปใหม่ ๆ ที่ถูกนำมาเปลี่ยนอยู่บ่อยครั้ง บางจุดจะมีรูปปั้นเล็ก ๆ มาวางไว้ราวกับจะเป็นการระลึกถึงดวงวิญญาณที่ยังคงวนเวียนให้ผู้คนในละแวกนั้นได้พบเห็นอยู่เสมอ
นอกจากเรื่องเล่าเกี่ยวกับพระราชวังเก่าแล้ว สถานที่นี้ยังเต็มไปด้วยคุณค่าทางประวัติศาสตร์ที่น่าค้นหา และศาลสมเด็จพระนเรศวรที่ทรงศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง ไม่แปลกเลยที่สถานที่แห่งนี้จะเต็มไปด้วยผู้ศรัทธาและนักท่องเที่ยวมากมาย
ภาพประกอบ : ลอยชาย