บทที่ 24
บทส่งท้าย
1 เดือนต่อมาหลังจากผ่านเหตุการณ์เลวร้ายในคืนที่ทัศนัยถูกทำให้รับสารภาพ เดือนดาราก็ขอผู้บังคับบัญชา มาทำการวิจัยและพัฒนาเครื่องสอบสวนด้วย VR รุ่นต่อไปเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เครื่องมือสอบสวนชนิดพิเศษไม่ว่าผู้ร้ายจะโกหกหรือตลบตะแลงเก่งแค่ไหน ขอเพียงสวมแว่น VR ชนิดพิเศษนี้ก็มีอันต้องรับสารภาพทุกราย เพราะถ้าหากผู้ร้ายคนนั้นโกหกจะต้องเจอฝันร้ายที่ไม่อาจหลับตาได้ลง
ก๊อก ก๊อก! ครืด...!
เสียงแว่นตา VR สั่นและเคลื่อนที่บนโต๊ะได้เอง นั่นทำให้เดือนดารารีบปิดประตูห้องล็อกกลอนอย่างดี หากระดาษสีทึบที่เตรียมไว้มาปิดกระจกบนบานประตูทางเข้า เพื่อไม่ให้คนที่ผ่านไปมามองเห็นว่าเธอกำลังทำพิธีกรรมอยู่ ตำรวจสาวเหลือบมองดูนาฬิกา ตรงกับเวลาเที่ยงคืนพอดี
ครืด ครืด ครืด!
เสียงแว่น VR สั่นอยู่บนโต๊ะอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่มันจะสั่นจนตกลงพื้น ตำรวจสาวรีบหยิบข้าวกล่องที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อหน้าสถานีตำรวจมาเปิดฝาออก จากนั้นเอื้อมมือไปหยิบธูปที่วางอยู่บนตู้เอกสารออกมา 1 ดอก เธอจัดการจุดธูปและปักลงตรงกลางอาหาร ทันทีที่ควันลอยคลุ้งสู่อากาศ เสียงสั่นอย่างบ้าคลั่งก็ค่อย ๆ เงียบสงบลงจนหยุดนิ่ง
เดือนดาราจำเป็นต้องตื่นขึ้นมาทำกิจแบบนี้ทุกคืน เพื่อทำในสิ่งที่พอจะชดเชยให้ทัศนัยได้บ้าง ถึงเขาจะเป็นผู้ร้ายในคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง แต่การฆ่าเพื่อล้างแค้นไม่ใช่สิ่งที่ตำรวจสาวต้องการ เธอแค่อยากให้เขาสัมผัสถึงความทรมานจากการไร้อิสรภาพ ให้เขาถูกจองจำในคุกตลอดชีวิต แต่มันก็ดันมาเกิดเรื่องผิดพลาดขึ้น
ในคืนที่เธอได้รายชื่อผู้ร่วมขบวนการลัทธิพิพากษาสำเร็จ ทัศนัยที่ยอมจำนนแล้วกลับคลุ้มคลั่งใช้มือบีบคอตัวเอง มันเป็นความผิดพลาดของเธอที่ให้ผีตายโหงมาช่วยแสดงในภาพเสมือนเพื่อสะกดจิตให้ทัศนัยยอมรับสารภาพ แต่ถ้าทัศนัยตายนั่นแปลว่าเธอจะกลายเป็นฆาตกร
“ฉันจะทำบุญไปให้นะ ช่วยฉันทีเถอะ”
“กูไม่เอาบุญ กูจะเอามันไปอยู่ด้วย!”
นั่นคือเสียงที่แทรกเข้ามาในห้วงความคิด เดือนดาราสะดุ้งตื่นก็เห็นทัศนัยใช้มือบีบคอตัวเอง
“อย่าฆ่ามัน ปล่อยให้มันทรมานจนตายเถอะ!”
“มีบางสิ่งที่ทำให้มันทรมานมากกว่าที่เธอพูด” เสียงของดวงวิญญาณที่แทรกเข้ามายังรู้สึกได้ถึงความโกรธแค้นอาฆาต
“อะไร คุณหมายถึงอะไร ?”
“รับรองว่าเธอต้องไม่อยากดู”
อ้ากกกกก!
ทัศนัยกำลังถูกฉีกแขนและขาออก หญิงสาวกรีดร้องกับเสียงโหยหวนของชายหนุ่ม แต่แล้วร่างที่กำลังดิ้นทุรนทุรายก็หายไปพร้อมกับเงาดำของผีตายโหง เหลือเพียงฉากสีขาวว่างเปล่าตรงหน้า
จริงสิ...นี่เธออยู่ในระบบภาพเสมือนของ VR ที่ทัศนัยหายไปก็อาจเป็นเพราะเขาถอดแว่น VR ออก ตำรวจสาวรีบถอดแว่นของตัวเองออก แล้วภาพเบื้องหน้าที่เธอเห็นก็ยืนยันความคิดของเธอ
ทัศนัยนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น ในมือยังกำแว่นตาสีดำขลับมีสายระโยงระยางไปทั่ว
เดือนดารารีบเข้าไปดูอาการของทัศนัย ประคองศีรษะของเขาขึ้นมาหนุนบนตัก
“คุณทำใจดี ๆ ไว้” หญิงสาวเขย่าเพื่อเรียกสติ ในขณะเดียวกันก็พยายามมองหาว่ามีตำรวจในทีมเดินผ่านมาบ้างหรือไม่ “ช่วยด้วย ใครอยู่ข้างนอก มาช่วยฉันที”
ไร้เงาของคนที่ผ่านไปมา ในจังหวะที่เดือนดารากำลังจะทำการปั๊มหัวใจให้ชายหนุ่ม หญิงสาวกลับถูกกระชากผมให้ลงมานอนที่พื้น เป็นฝ่ายชายที่ลุกขึ้นคร่อมตัวเธอและหัวเราะสะใจ
“มึงลองทรมานแบบกูดูบ้างไหมล่ะ อีตำรวจสารเลว!” ทัศนัยตบหน้าเธอจนชา เดือนดาราไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืนก่อนที่เธอจะถูกคลุมด้วยภาพดำมืด
เมื่อตำรวจสาวรู้สึกตัวก็รู้ว่าตัวเองถูกสวมแว่น VR ที่ใช้กับทัศนัย เบื้องหน้ายังคงเป็นฉากบนโต๊ะอาหารที่เคยทำให้ทัศนัยสารภาพ แต่ที่ต่างออกไป คือร่างของคนมากมาย บ้างเสื้อผ้าหลุดลุ่ย บ้างมีเลือดชโลมทั่วตัว เธอนับไม่ได้ว่ามีกี่คนแต่มันมากมายจนแน่นห้องรับประทานอาหารไปหมด
เดือนดารากระถดถอยหลังพลันสายตาก็สบเข้ากับดวงตาสีแดงฉานเหลียวมามองจากด้านหลัง เธอทั้งหวาดกลัวและอับจนหนทาง เห็นทีเธอคงต้องตายแทนไอ้ฆาตกรชั่วนั่น
“กูบอกมึงแล้วใช่ไหม ว่าคนอย่างมันไม่สมควรมีชีวิตอยู่” เสียงที่ซ้อนทับกันของหลายคนดังจนแสบหู เดือนดาราเอามือปิดหูก็แล้วแต่ก็ยังได้ยินเสียงนั้นพูดต่อไป
“มึงไม่ต้องห่วง กูจะให้มันอยู่ในคุกชดใช้ในสิ่งที่มันทำ ยิ่งกว่าคำว่าตลอดชีวิตอีก” จบประโยคนั้น เสียงก้องกังวานก็หายไปเหลือเพียงความเงียบและจอดำมืด
เดือนดารารีบถอดแว่น VR ออก ก็เห็นทัศนัยกำลังยืนโขกศีรษะกับกำแพงไม่ยอมหยุด
โครม!
ทัศนัยเริ่มเดินจากฝั่งหนึ่งของห้องแล้ววิ่งชนผนังอีกฝั่งด้วยแรงทั้งหมดที่มี ก่อนที่ดวงตาที่มีเลือดผสมปนกับน้ำตาจะมองมาที่เธอ พร้อมยื่นมือไปทางแว่น VR มันคงเป็นอำนาจและความแค้นของดวงวิญญาณที่ทำให้แว่นนั้นเคลื่อนไปหาทัศนัยเองได้ จากนั้นเขาก็สวมแว่นให้ตัวเองแล้วก็ถอนหายใจเฮือกสุดท้ายก่อนจะขาดใจตาย
ทัศนัยเสียชีวิตไปแล้ว แต่โปรเจกต์การนำเครื่องจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงกลับไม่ถูกยุบทิ้งไป แต่ยังนำเอามาใช้อย่างลับ ๆ และทุกครั้งที่มีการสอบสวนผู้ร้ายปากแข็ง ก็จะเห็นเงาดำของชายผู้หนึ่งมีรอยแตกบนศีรษะ ปรากฏอยู่ในภาพของระบบเสมือนด้วย นั่นทำให้ผู้ต้องสงสัยทุกคนยอมรับสารภาพแต่โดยดี
แต่เดือนดาราก็ต้องแลกกับการเซ่นผี ไม่อย่างนั้นเครื่องสร้างภาพเสมือนจะใช้การไม่ได้ตลอด วันนี้เธอทำการเซ่นไหว้เรียบร้อยก็คงถึงเวลาที่เธอต้องกลับไปนอนพักเสียที
“หมวดครับ ทางหน่วยแจ้งมาว่าอยากทำการสอบสวนผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าข่มขืนด้วยเครื่องวีอาร์เป็นการด่วนครับ”
“ตอนเที่ยงคืนเนี่ยนะ” เดือนดารากำลังจะถามว่าใครเป็นคนสั่ง แต่แว่นตาบนโต๊ะและจอมอนิเตอร์กลับเปิดระบบขึ้นเองจนพร้อมทำงาน
หญิงสาวได้เห็นผู้ร้ายถูกพาตัวเข้าไปนั่งลงตรงตำแหน่งผู้ถูกทดสอบ และก่อนจะได้เริ่มการสอบสวนเธอทิ้งท้ายไว้ว่า
“ถ้าไม่อยากเจอดี ก็รีบรับสารภาพเสียนะคะ จะได้ไม่เจ็บคอด้วย”
ผู้ต้องสงสัยไม่พูดอะไรแต่ทำลอยหน้าลอยตาเหมือนจะสื่อว่าถ้าไม่พูดแล้วจะทำไม
เดือนดาราเดินออกจากห้อง ปิดประตูลง เพียงไม่กี่วินาทีก็ได้ยินเสียงร้องโหยหวน และหากผู้ถูกสอบสวนยังไม่ยอมพูดอีก คืนนี้คงได้ยินเสียงร้องแบบนี้ตลอดทั้งคืน
อวสาน