อัปเดตล่าสุด 2022-08-27 11:51:24

ตอนที่ 14 บ้านลืมตาย ตอน ๒

บทที่ 14

บ้านลืมตาย ตอน ๒

 

                  “บุหงา...” เสียงเรียกจากชายคนหนึ่งที่พยายามแสดงออกว่ารักเธอ อยู่เคียงข้างเธอ ต่างจากผู้ชายหลายใจที่เธอแอบหลงรัก

               แดนดินคือเพื่อนสนิทที่เฝ้าติดตามบุหงาที่เรียนด้วยกันตั้งแต่ประถม มัธยม จนถึงมหาวิทยาลัย แดนดินเป็นเพื่อนสนิทมากที่สุด บุหงาเองก็แอบชอบแดนดินมาตั้งนานแล้ว

               14 กุมภาพันธ์ วันวาเลนไทน์ปีที่แล้ว บุหงาตั้งใจรวบรวมความกล้า ถึงเธอจะเป็นผู้หญิงแต่ยุคนี้การจีบผู้ชายก่อนคงจะไม่ใช่เรื่องแปลก 

               หญิงสาวเตรียมดอกกุหลาบขาว เฝ้าตามหาชายหนุ่มตามสนามฟุตบอลและทุกสถานที่ที่คิดว่าแดนดินจะไป แต่ก็ไร้เงาของผู้ชายคนที่เธอจะมอบดอกไม้ให้ บุหงาจึงตัดสินใจไปหาแดนดินที่บ้านเพื่อเซอร์ไพรส์ บ้านของแดนดินเป็นบ้านไม้เก่าท้ายตลาด ท่ามกลางหญ้ารกชัฏห่างจากเพื่อนบ้านไปสองถึงสามหลัง ชายหนุ่มอาศัยอยู่กับแม่เพียงสองคน และช่วงนี้ได้ข่าวว่าแม่ของแดนดินป่วยหนักต้องพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ดังนั้น ในตอนนี้แดนดินอยู่ที่บ้านเพียงคนเดียว

                พอบุหงามาถึงบ้านของแดนดิน ประตูไม้บานเก่าก็เปิดอ้าอยู่ เธอได้ยินเสียงถอนหายใจดังออกมาจากห้องนอนของเพื่อนรัก บานประตูไม่ได้ปิดสนิท เธอแอบมองลอดเข้าไป และสิ่งที่ได้เห็นนั้นกลับเซอร์ไพรส์ยิ่งกว่า

               “อย่าบอกแม่นะ ป้าเรี่ยม” ร่างชายที่เธอรักนอนเปลือยกายเคียงกันกับหญิงสูงวัยกว่า แม้ชายหนุ่มจะเรียกหญิงคนนั้นว่าป้า แต่ป้าเรี่ยมก็ยังดูสาวและอ่อนกว่าวัย และที่สำคัญป้าเรี่ยมคนนี้คือป้าแท้ ๆ ของบุหงาเอง

               ป้าเรี่ยมหยิบธนบัตรสีเทาจากกระเป๋าสตางค์ให้แดนดิน

               “ตกลงยังไง ดินจะเอาด้วยไหม ?”

               “พอแล้วป้า ผมหมดแรงแล้วเนี่ย” ฝ่ายชายเบือนหน้าหนี กำลังจะลุกจากเตียง แต่ถูกดึงกลับมาก่อน

               “ไม่ใช่ ฉันหมายถึงที่ดินมรดกร้อยล้านของอีบุหงา ฉันอยากได้ แกช่วยฉันหน่อยสิ” บุหงาเหมือนหูดับไปชั่วขณะ เธอไม่คิดว่าจะได้ยินคำพูดนี้จากป้าแท้ ๆ ของตัวเอง

               “ช่วยยังไง จับทำเมียแล้วจดทะเบียนงั้นเหรอ โอ้ย! ถูกยิงกระบาลก่อนน่ะสิ พ่อบุหงาดุจะตาย” แดนดินสะบัดแขนหลุดออกจากการจับยึดของป้าเรี่ยม ชายหนุ่มกำลังกำลังจะลุกจากเตียง แต่ถูกป้าเรี่ยมดึงกลับมากอดไว้

               “งั้นถ้าฉันฆ่าพวกมัน มรดกก็ต้องตกเป็นของฉันถูกไหม” ป้าเรี่ยมเสนอแผนที่ทำให้บุหงาตัวสั่น

               “โอ๊ย ผมไม่อยากติดคุกหรอกนะ พูดมาแต่ละอย่าง” แดนดินพยายามหนีให้หลุดจากการกอดรัด จนในที่สุดป้าเรี่ยมต้องยอมปล่อยให้อีกฝ่ายลุกไปใส่เสื้อผ้า

               “งั้นก็ให้มันฆ่าตัวตาย ดินต้องจีบบุหงา จากนั้นก็ฟันแล้วทิ้ง ทำได้ไหม ?” ป้าเรี่ยมไม่เคยคิดว่าบุหงาเป็นหลานเลยหรืออย่างไร ต่อหน้าป้าเรี่ยมอาจจะปฏิบัติต่อเธอเหมือนลูกในไส้ แต่เธอเพิ่งรู้ธาตุแท้ของป้าใจโหดก็วันนี้เอง

               “ให้ฟันแล้วทิ้งน่ะผมทำได้อยู่แล้ว งานถนัด แต่ถ้ามันฆ่าตัวตายเพราะผม ผมไม่เอาด้วยหรอก” เธอรู้สึกใจชื้นขึ้นที่ชายที่เธอรักยังพอมีมนุษยธรรมอยู่บ้าง

               “โอ๊ย นู่นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา งั้นแกเอาเงินพันนึงของฉันคืนมา ไม่งั้นฉันจะบอกแม่แกว่าเรามีอะไรกัน” ป้าเรี่ยมพยายามค้นกระเป๋ากางเกงของชายหนุ่ม แต่อีกฝ่ายรีบปัดมือออก

               “เฮ้ย โอเค ผมหาคนมาหักอกบุหงาเอง หล่อและเท่กว่าผมเยอะ มันชื่อวิทูรย์ เป็นนักกีฬา แต่กระดิกนิ้วสาว ๆ ก็เข้าหาตรึม” หัวใจของบุหงาหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม จิตสำนึกเมื่อครู่ของแดนดินมันซื้อได้ด้วยเงินแค่หนึ่งพันบาทเองหรือ

               บุหงาได้ยินเสียงคนในห้องตกลงทำตามแผนของแดนดิน

               ในตอนแรกเธอโกรธมากคิดจะไปฟ้องพ่อกับแม่ แต่เธอไม่มีโทรศัพท์มือถือถ่ายรูปทั้งสองคนนอนเคียงกันไว้เป็นหลักฐาน นั่นทำให้เธอจนแต้ม ไร้ซึ่งทางออก

               บุหงาย่องออกมาจากบ้านแดนดิน ก่อนเสียงร้องสะอื้นจะดังจนคนทั้งสองในบ้านจับได้ หญิงสาวเดินฝ่าฝนจนตัวเปียกสะท้าน ฝนที่ตกลงมากลบคราบน้ำตาที่เอ่อล้น เสียงร้องไห้ฟูมฟายถูกห่าฝนชะล้างไปจนสิ้น ใจหนึ่งหญิงสาวอยากให้สายฝนและลมแรงชะล้างความอ่อนแอที่มีอยู่ในใจ เธอทั้งโกรธแค้นป้าเรี่ยมและแดนดินที่คิดรวมหัวจะฆ่าเธอให้ตายทั้งเป็น

               หญิงสาวสะดุดข้อเท้าตัวเองล้มลงจนเจ็บตัว ชั่วเวลาเสียใจและเจ็บปวด แวบหนึ่งในหัวกลับทำให้เธอคิดได้ แทนที่เธอร้องไห้ให้กับคนเลว สู้เธอคิดหาวิธีเอาคืนชายโฉดหญิงชั่วพวกนั้นจะไม่ดีกว่าเหรอ

               “ผมหาคนมาหักอกบุหงา...มันชื่อวิทูรย์” แวบหนึ่งบุหงานึกถึงคำพูดของแดนดินเมื่อครู่

               ในที่สุดบุหงาก็คิดได้ ถ้ามันจะใช้เพื่อนมาย่ำยีเธอ เธอจะแกล้งมันกลับให้รู้แล้วรู้รอด

               วันรุ่งขึ้นมีผู้ชายคนหนึ่งดักรอบุหงาอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัย แนะนำตัวว่าชื่อวิทูรย์ หญิงสาวเจอวิทูรย์ครั้งแรกก็คิดว่าเป็นคนหล่อคนหนึ่ง หุ่นดีมีมัดกล้ามแบบนักกีฬา วิทูรย์ขอเบอร์เธอเพื่อเอาไว้ติดต่อ หลังจากนั้นบุหงาก็คุยกับผู้ชายคนนี้เรื่อยมา คุยทั้งที่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่จริงใจ คุยเพราะจะใช้เขาเป็นเครื่องมือในการแก้แค้น บุหงาเล่นตามบท เธอทำเป็นดีใจในวันที่วิทูรย์มีดอกไม้มามอบให้ อีกทั้งยังมีของขวัญเป็นสร้อยคอแบบที่ผู้หญิงทุกคนต้องอิจฉา วิทูรย์พาเธอไปกินข้าว ไปรับไปส่ง แต่เธอระวังตัวทุกฝีก้าวไม่ให้มันแตะต้องตัวได้แม้แต่ปลายเล็บ หญิงสาวมักจะพกมีดพับเล็ก ๆ ติดตัวไว้เสมอเผื่อเกิดเหตุการณ์คับขัน และเพื่อความสมจริง ในแต่ละครั้งที่เจอกันบุหงาจะทำทีว่าชอบพอวิทูรย์มากขึ้นเรื่อย ๆ เริ่มยอมให้จับมือ และยอมให้หอมแก้มเพื่อให้พวกมันตายใจ

               ผ่านไปหลายอาทิตย์ ดูเหมือนว่าพวกป้าเรี่ยมจะทนไม่ไหว ให้วิทูรย์นัดเจอเธอเพื่อลวงไปขืนใจ แต่บุหงากลับคิดว่านี่เป็นโอกาสดีที่เธอจะได้ลิ้มลองรสสวาทจากผู้ชายที่ดูดีกว่าแดนดินเสียอีก บุหงาปล่อยตัวปล่อยใจให้วิทูรย์รุกล้ำร่างกายเธอจนถึงขีดสุด และไม่ลืมที่จะป้องกัน แม้จะเป็นเรื่องยากแต่การสลัดความรู้สึกกับชายที่เธอเคยนอนด้วยเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อแก้แค้น บุหงาเลิกคิดถึงความรักสวยหรูที่มีแต่ในนิทาน เธอพร่ำบอกกับตัวเองว่าการเสียตัวครั้งนี้ก็แค่บันไดให้เธอปีนป่ายไปยืนอยู่บนยอดหอคอย แล้วมองลงมาเห็นคราบน้ำตาแห่งความผิดหวังของพวกมัน ป้าเรี่ยมและแดนดินจะไม่มีวันได้เห็นเธอฆ่าตัวตายเพราะความรักโง่เง่าเช่นนี้อย่างแน่นอน

 

             วันที่วิทูรย์นัดเธอมาเจอเพื่อบอกเลิก บุหงาเตรียมพร้อมทุกอย่าง หญิงสาวตีบทแตกแกล้งทำเป็นเสียใจ ฟูมฟายกลางสายฝน เพื่อรอนักแสดงหลักมาร่วมด้วย แล้วมันก็มา ไอ้แดนดิน!

               ชายผู้เสแสร้งที่เธอเคยรัก แต่ตอนนี้กลับรู้สึกสะอิดสะเอียนทุกครั้งที่มันแตะเนื้อต้องตัว ขยะแขยงที่มันทำดีกับเธอ 

               “หัดมองคนที่หวังดีกับเธอมั่งสิ” ทันทีที่ได้ยินบุหงากำหมัดอยากจะฟาดหน้ามัน แต่ต้องเก็บงำความรู้สึกเจ็บแค้นนี้ไว้ เธอเคยคิดจะฆ่าพวกมันด้วยมือของตนเอง แต่สุดท้ายเธอจะกลายเป็นฆาตกรฆ่าคน ต้องติดคุกทั้งที่กำจัดชีวิตคนไร้ค่าอย่างพวกมันไปได้ บุหงาจึงหาวิธีอื่น วิธีที่แยบยลจนทำให้พวกมันตายโดยไม่มีใครสงสัย

               หญิงสาวรู้มานานแล้วว่าบ้านไม้ท้ายซอยหลังนี้มีอาถรรพ์สาปแช่ง เธอแอบลอบเข้าไปตอนกลางวันเพื่อท่องคาถาแล้วเขียนชื่อคนที่เกลียดลงไป และแน่นอนเธอบรรจใช้นิ้วชี้เขียนชื่อด้วยเลือดลงนกำแพงให้เข้มและเห็นเด่นชัดที่สุด

               แดนดิน! เรี่ยม!

               แต่กลายเป็นว่าเช้าวันรุ่งขึ้นพ่อและแม่ของบุหงาถูกฆ่าแขวนคอ

               หญิงสาวรีบกลับไปยังบ้านท้ายซอย เธอกลับเห็นชื่อของไอ้แดนดิน กับอีป้าเรี่ยมถูกขีดทิ้งและเปลี่ยนเป็นชื่อพ่อและแม่ของเธอ

               บุหงากรีดร้องแทบขาดใจ สติของเธอขาดวิ่นไม่สามารถควบคุมได้ คนที่เคยใจเย็นวางแผนอย่างรอบคอบถูกกลืนหายไปพร้อมกับการสูญเสียที่ไม่มีวันยอมรับได้ หญงิสาวอยากจะฆ่าพวกมันด้วยมือของเธอเอง จึงกลับไปที่โรงพยาบาลอีกครั้ง และแกล้งเป็นบ้าอยู่ท่ามกลางคนในโรงพยาบาล ให้คนเหล่านี้เป็นหูเป็นตา เผื่อถ้าพวกมันคิดจะเอาเธอไปฆ่า อย่างน้อยก็ยังมีหลักฐาน 

               นางพยาบาลที่ดูแลเธอก็ไม่รู้เรื่องรู้ราวเสียเลย โทรหาหมอดูบ้าบออะไรก็ไม่รู้ บุหงาก็ได้แต่เล่นตามน้ำ

               แต่แล้วในคืนนั้นเอง หญิงสาวก็ได้พบกับวิทูรย์อีกครั้ง ชายหนุ่มมาหาเธอถึงห้องพักในโรงพยาบาล เขามาสารภาพและขอโทษที่แกล้งจีบเธอตามคำสั่งป้าเรี่ยม

               “บุหงา เธอรีบออกจากโรงพยาบาลก่อนเถอะ ป้าเรี่ยมกำลังจะส่งคนมาฆ่าเธอ แล้วทำให้ดูเหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย” วิทูรย์ถือวิสาสะดึงมือบุหงาจะลากออกจากห้อง แต่หญิงสาวไม่เชื่อ ชายหนุ่มจึงรีบให้เธอฟังคลิปเสียงที่บันทึกการพูดคุยของป้าเรี่ยมกับแดนดิน

               “คืนนี้แกต้องลากนางบุหงาออกมานะไอ้ดิน”

               บุหงาลังเลอยู่นาน เพราะวิทูรย์เองนั่นแหละอาจจะลวงเธออกไปแทนก็เป็นได้ 

               เมื่อเห็นว่าหญิงสาวดูจะไม่เชื่อง่าย ๆ ชายหนุ่มจึงให้เธอหลบอยู่ตรงทางเดินหนีไฟใกล้ห้องพักผู้ป่วยเพื่อพิสูจน์คำพูดของตนเอง บุหงาเห็นแดนดินมากับผู้ชายอีก 2 คน พยายามควานหาตัวเธอ แต่ก็ไม่พบ

               “ทีนี้เธอจะเชื่อฉันได้หรือยัง ?” วิทูรย์ถาม บุหงาจึงตัดสินใจว่าจะลองเชื่อเขาสักครั้ง

               วิทูรย์พาบุหงาไปซ่อนตัวในบ้าอาถรรพ์ท้ายซอย รอให้เวลาผ่านไปหนึ่งวัน เพื่อให้คนออกตามหาบุหงาเสียก่อน ส่วนเขาจะทำให้แดนดินตามไปในวันรุ่งขึ้นให้ได้

               บุหงาพยายามถามวิทูรย์ว่าจะทำอะไรแดนดิน ชายหนุ่มกลับตอบมาว่า 

               “ไม่ถึงกับฆ่ามันหรอก แต่จะให้บทเรียนกับมันและป้าเรี่ยม”

               “ทำไมนายต้องช่วยฉัน ?” บุหงาถามอีกฝ่าย ในดวงตาดำขลับของผู้ชายคนนี้สั่นไหวทันทีที่เธอจ้อง 

               ชายหนุ่มหลบสายตาก่อนจะพูดด้วยเสียงบางเบาว่า 

               “เพราะฉันชอบเธอบุหงา ฉันชอบเธอขึ้นมาจริง ๆ”

               คืนนั้นวิทูรย์ตั้งใจจะไปที่บ้านร้างท้ายซอยเพียงลำพัง ถึงแม้บุหงาจะอ้างว่าบ้านหลังนั้นมีทั้งผีทั้งอาถรรพ์ แต่เขาก็ไม่ฟัง เพราะคืนนี้ไอ้แดนดินจะต้องไปตามหาบุหงาแน่ แล้วไอ้แดนดินมันก็ไปจริง ๆ

 

               “มึงเลิกงมงายเหอะว่ะ อย่าไปเชื่อมาก” วิทูรย์ส่องไฟไปกระทบใบหน้าคนพามาพอดี แดนดินมันทำตาขวางใส่ทั้งที่อากาศเย็นแต่เหงื่อซึมเต็มใบหน้าไปหมด 

               แดนดินหันมาจุปากบอกให้วิทูรย์เงียบ มันกำลังอดทนกับการนั่งฟังคลิปเสียงซ้ำ ๆ แบบนี้อยู่หลายชั่วโมง คลิปเสียงที่เจอในโทรศัพท์มือถือของบุหงา

               บุหงาเห็นทุกอย่าง เธอขอตามมาด้วยและกำลังแอบอยู่ชั้นบน ในมือกำพระที่ห้อยคอไว้แน่น ใจนั้นหวาดหวั่น ถึงจะกลัวแต่อยากเห็นความฉิบหายของไอ้แดนดินเสียก่อน

               เสียงส่งข้อความดังขึ้น และเป็นบุหงาที่เป็นคนส่ง

               “รีบหนีไปแดนดิน พวกมันจะฆ่านาย!” 

               “เหอะ! อีบุหงามันยังไม่ตายจริง ๆ” แดนดินดูไม่กลัวเลยสักนิด และนั่นทำให้แผนของวิทูรย์พัง!

               “อะ...ไอ้แดน ดูนั่น!” วิทูรย์สาดไฟไปอีกทาง ตรงข้ามกับจุดที่บุหงายืนอยู่ ทั้งสามคนเห็นเป็นประจักษ์แก่สายตา

            ร่างของป้าเรี่ยมห้อยลงมาจากขื่อ!

               อ๊ากกกกก! 

               เสียงแดนดินร้องลั่ผสานกับเสียงร้ององบุหงา!

               ฟับ!

               วิทูรย์ฟาดไม้หน้าสามลงกลางท้ายทอยของแดนดิน 

               ทันทีที่คนเบื้องล่างล้มลง บุหงาก็รู้สึกว่าตัวเองอยู่กลางอากาศและกำลังร่วงลงสู่พื้นดิน!

 


แสดงความคิดเห็น
แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม


ความคิดเห็น