บทที่ 34 วาร์ด เยอร์มูห์
อ่อนเยาว์ กับ อาวุโส
อ่อนโยน กับ เหี้ยมโหด
ลังเล กับ มุ่งมั่น
ต่อสู้เพื่อเพื่อนพ้อง กับ ต่อสู้เพื่อตัวเอง
ไม่มีสิ่งใดที่ชายสองคนซึ่งกำลังเผชิญหน้ากันอยู่เหมือนกันเลยสักนิด หนึ่งตารางแสง กับสิบพลังพิเศษ การต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดกำลังจะเริ่มต้น ชะตากรรมของโลกขึ้นอยู่กับการต่อสู้ครั้งนี้...
หัวหน้าเงารัตติกาลไม่แปรเปลี่ยนสีหน้าเมื่อเห็นผมเข้ามาขัดขวางการสังหารซูอัล ดวงตาเย็นชาดุจน้ำแข็งขั้วโลกเสียดแทงเข้ามาเมื่อตาสบกัน แม้จะเสียหลักจากการปะทะ แต่เคียวยาวในมือยังคงตั้งตรงเตรียมพร้อมโจมตีซ้ำอีกรอบ
ร่างผมเปล่งแสงสีทองจากพลังความเร็วที่เพิ่มถึงขีดสุด แรงกดดันจากพลังมหาศาลจนตรึงหัวหน้าเงารัตติกาลให้อยู่กับที่ไม่กล้าผลีผลามโจมตี ผมประคองซูอัลไปสมทบกับเซราห์ที่ส่งสายตามองบาดแผลลึกบนท้องอย่างเป็นห่วง
“ฝากด้วยนะครับ”
เซราห์โอบร่างซูอัลอย่างอ่อนโยน ข้างกายมีเน็กเธอร์นอนหอบหายใจรวยริน ทั้งคู่ไม่อยู่ในสภาพต่อสู้ได้อีกแล้ว แต่เมื่อเพื่อนทั้งสองมีเซราห์ดูแล ผมก็วางใจ ใบหน้าหันกลับไปเผชิญชายที่เป็นผู้นำเหล่านักฆ่านับร้อย.. วาร์ด เยอร์มูห์
แต่สายตาพลันเบิกกว้าง เมื่อเคียวใหญ่ที่เคยอยู่ในมือ บัดนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นธนูสีทองโค้ง นิ้วเหนี่ยวเส้นแสงพร้อมลูกธนูยาวไปด้านหลัง
“Moon Airrow!!”
กระสุนแสงพุ่งใส่ด้วยความเร็วเกินกว่าตาจะมองทัน แต่เพราะจิตสังหารที่พุ่งเข้าใส่ก่อนอาวุธยิง ตารางแสงจึงถูกสร้างดักทางไว้ล่วงหน้า
ลูกกระสุนพุ่งผ่านตารางและถูกลดความเร็วด้วยชุดตัวเลขที่ผมใช้บ่อยที่สุด สองขาพุ่งสวนทางก่อนเอียงร่างเพียงเล็กน้อยหลบลูกธนู ผมกระโจนเข้าใส่พร้อมง้างขาเหวี่ยงฟาดใส่ใบหน้าของวาร์ดที่ยังไม่ทันตั้งตัว
‘วูบ!!’
ท่อนขาฟาดใส่อากาศ ร่างใหญ่ที่ยืนจังก้าอยู่เบื้องหน้ากลับหายไปจากจักษุสายตา และกว่าจะรู้ตัวอีกที กลับเป็นผมที่ถูกกระแทกเข้าที่กลางหลังจนร่างลอยละลิ่วกลิ้งไปชนโต๊ะหินตัวใหญ่แตกพังกระจายเป็นชิ้น
“อะ.. ไรกัน”
ผมครางอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง ความเร็วของผมถูกเพิ่มขึ้นจนถึงขีดสุดที่ร่างกายจะรับได้ แต่วาร์ดกลับหลบและโจมตีสวนกลับอย่างง่ายดายราวกับความเร็วไม่มีผลต่อเขาสักนิด
ร่างในชุดสูทสีดำสมกับชื่อกองโจรยืนตระหง่านอยู่กึ่งกลางโถงทางเดิน แสงจันทร์สาดฉายผ่านหน้าต่างใสมาอาบไล้ร่างใหญ่จนวาร์ดดูคล้ายเทพเจ้า...
เทพเจ้าแห่งความตาย!!
พลังพิเศษอันน่าตื่นตระหนกของเขาทำให้พวกเราฉงน อาวุธมากมายถูกสร้างสับเปลี่ยนอย่างอิสระ กระทั่งการเพิ่มความเร็วที่น่าจะมีผมเพียงคนเดียวที่ใช้ได้ กลับถูกวาร์ดใช้ความสามารถนี้อย่างเหนือกว่า
“หรือว่า.. คุณเชื่อมต่อ SSS ได้หลายชิ้น”
วาร์ดหัวเราะหึ ๆ
“SSS ของชั้นมีเพียงชิ้นเดียว.. SSS ที่ใช้พลังของ ‘จักรวาล’ ได้”
วาร์ดพูดจบก็ล้วงหยิบกระจกทรงกลมขึ้นมาแนบตา ดวงตาที่มองผ่านกระจกขยายกว้างทำให้ผมรู้ว่า SSS ชิ้นนั้นคือ ‘เลนส์’
“Mercury Staff!!”
ไม้เท้ารูปร่างประหลาดมีงูตัวยาวเลื้อยพันปรากฏในมือ ส่วนหัวมีปีกเล็ก ๆ ติดอยู่ยิ่งทำให้ลักษณะของมันดูแปลกเข้าไปใหญ่ แสงสีน้ำเงินจากไม้เท้าไหลอาบร่างของวาร์ดถ่ายทอดพลังลำดับที่สามให้แก่หัวหน้าเงารัตติกาล ผมจ้องมองสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างระวัง
แต่การเคลื่อนไหวของเขาอยู่เหนือขีดจำกัดที่ตาจะมองทัน
หมัด เข่า เท้า ระดมโจมตีผมซึ่งยังตั้งตัวไม่ติด ร่างกระเด็นกระดอนไปซ้ายที ขวาที รอยช้ำปรากฏทั่วร่างอย่างต่อเนื่อง หมัดที่สายตามองเห็นว่าพุ่งเข้าใส่เพียงครั้งเดียว กลับสร้างรอยแผลให้นับสิบจุด ร่างผมกระแทกกำแพงก่อนดีดตัวกลับมาให้เขาใช้ปลายเท้าเหยียดถีบเข้าใส่ท้องน้อยจนน้ำย่อยแทบไหลย้อนออกทางปาก
แค่โดนเท้าสะกิด ผมก็ลอยข้ามฟากห้องโถงขนาดใหญ่ไปถูกหยุดด้วยเกราะเหล็กซึ่งตั้งประดับห้องโถงไว้จนสะบักสะบอม เข่าค้ำยันร่างไม่ให้ล้ม ทั้งความเร็วและพละกำลังของวาร์ดเหนือกว่าผมอย่างมาก
เมื่อสู้ด้วยกำลังไม่ได้ ก็ต้องใช้อาวุธ!!
ดาบเล่มยาวจากชุดเกราะโบราณที่ตกอยู่บนพื้นคืออาวุธหนึ่งเดียวที่ผมเห็น มือฉวยคว้าดาบก่อนพุ่งเข้าใส่วาร์ดทั้งที่ยังจุกไม่หาย ความเร็วที่ถูกเพิ่มกับความคมของดาบยาว ย่อมผ่าแยกร่างวาร์ดให้ขาดในครั้งเดียว
‘เคร้ง!!!’
โล่กลมขนาดใหญ่ วาดลวดลายรูปรถเทียมศึกโบราณถูกสร้างกั้นขวางการโจมตีด้วยอาวุธคม แรงสะท้อนจากโล่ดีดร่างผมให้กระดอนขึ้นไปบนอากาศ
“Mars Lance&Shield!!”
นอกจากโล่ในมือซ้ายแล้ว ศาสตราวุธยาวในมือขวาก็เสือกแทงเข้ามาทันทีที่ผมเสียจังหวะ
‘ฉัวะ!!!’
เพราะท่อนแขนที่ยังมีผลจากตารางแสงเพิ่มความแข็งแกร่ง ทำให้ผมยื่นมันออกมารับการโจมตีจากหอกเล่มยาว คมหอกไม่อาจสะกิดผิวให้เกิดบาดแผล แต่แรงกระแทกก็ส่งให้ร่างผมลอยคว้างสูงขึ้นไปอีก
“Neptune Trident!!”
โล่พลันสลายไป หอกด้ามยาวกลับมีปลายแหลมยืดออกมาซ้ายขวากลายเป็นตรีศูล เพียงหมุนควงเบา ๆ ไอน้ำก็กระเด็นพร่างพราว วาร์ดยื่นชูปลายแหลมของอาวุธสามง่ามมาที่ผม กระแสน้ำพวยพุ่งจากปลายตรีศูลเข้าใส่ราวน้ำพุ แรงดันน้ำมหาศาลผลักร่างผมให้ลอยขึ้นไปกระแทกเพดานโค้ง ร่างผมถูกพันธนาการด้วยมวลน้ำที่แผ่พุ่งมาอย่างไม่ขาดสาย ผมสำลักน้ำหูน้ำตาไหลเพราะน้ำเข้าทั้งจมูกและปาก
“Sun Attack!!!”
มือขวาสร้างบอลไฟขนาดใหญ่ ไอความร้อนแผ่พุ่งเข้ามาจนแม้ผมที่ตกอยู่ในวังวนแห่งน้ำพุยังร้อนผ่าว เมื่อสายตาเบิกมองภาพเบื้องล่าง แสงสีแดงจ้าจากดวงสุริยะก็ทวีความเข้มข้นขึ้นทุกขณะ พร้อมกับกระสุนลูกกลมที่พุ่งเข้าใส่หมายสังหาร
‘ตูมมม!!!!!’
เพดานหินถูกทำลายแตกกระจายเป็นผุยผง มุมโค้งมีรูขนาดใหญ่จากการทำลายล้าง แสงจันทร์ส่องทะลุลงมาราวกับแสงไฟแห่งการปิดม่านการแสดงละครเวที มวลน้ำมากมายถูกความร้อนระเหยกลายเป็นไอคลุ้งตลบอบอวลจนมองไม่เห็นสภาพภายในห้อง
วาร์ดยิ้มอย่างพึงใจ การโจมตีต่อเนื่องขนาดนี้ต่อให้ศัตรูแข็งแกร่งแค่ไหนคงไม่อาจทานทนยื้อชีวิตให้รอดต่อไปได้
หากการโจมตีนั้นโดนผม…
“เนเปียร์โบนส์!!”
การโจมตีจากมุมอับทำให้นักฆ่าผู้แข็งแกร่งที่สุดของเงารัตติกาลไม่อาจต้านทานได้ หมัดเสยจากด้านล่างพุ่งเข้าใส่ปลายคางของวาร์ดอย่างจัง แรงกระแทกสะเทือนถึงสมองจนตาพร่ามองอะไรไม่ชัดเจน
แต่กระนั้นวาร์ดก็ยังคงเป็นวาร์ด
พลังที่มหาศาลระดับหัวหน้าสูงสุดย่อมไม่เปิดช่องโหว่ให้ศัตรูนานนัก เขารีบตั้งสติก่อนใช้พลังเรียกไม้เท้าเร่งความเร็วให้ตัวเองจนเหนือกว่าผม ปลายเท้าสะกิดผนังหินก่อนร่างจะพุ่งกระแทก แรงสะท้อนส่งร่างให้พุ่งย้อนกลับมาพร้อมเคียวขนาดใหญ่ในมือ
ผมซึ่งไร้อาวุธและเครื่องป้องกันจะปัดป้อง คงโดนผ่าเป็นสองซีกด้วยอาวุธโค้งขนาดใหญ่
หากคู่ต่อสู้ของวาร์ดมีเพียงผม...
ไอน้ำที่หนาทึบคือเครื่องอำพรางร่างสูงใหญ่ได้เป็นอย่างดี ซูอัลที่ถูกเพิ่มความเร็วจากตารางแสงพุ่งลงมาจากช่องว่างของเพดานที่ถูกทำลาย เท้าสองข้างพุ่งถีบวาร์ดที่มุ่งเป้าโจมตีผมเพียงคนเดียว
เพราะอาวุธขนาดใหญ่อย่างเคียวด้ามยาว ทำให้วาร์ดไม่อาจสะบัดคมเคียวขึ้นฟาดฟันคู่ต่อสู้จากด้านบน ด้ามเคียวถูกยกขึ้นป้องกันลูกถีบอย่างกะทันหัน แต่พลังทำลายของร่างที่ถูกเร่งความเร็วนั้นมีมากเกินกว่าแขนสองข้างของวาร์ดจะต้านทานไหว อาวุธโค้งในมือจึงถูกซูอัลถีบกระเด็นหลุดมือหมุนติ้วกับพื้นดุจลูกข่าง
วาร์ดชะงักเท้าเพราะไม่คาดคิดถึงการโจมตีจากศัตรูที่หมดสภาพไปแล้ว
และเขาคงไม่คาดคิด ว่าศัตรูอีกคนที่หมดสภาพไปเช่นกันจะโผล่ขึ้นมาจากพื้น...
“X-Ray!!”
ฝ่ามือยื่นขึ้นจากพื้นทางเดินที่ปูด้วยพรมผืนหนาคว้าจับที่ข้อเท้าของวาร์ด พลังทะลุผ่านทำให้ร่างโปร่งใส จมลงสู่พื้นดิน
“Pluto Chain!!”
โซ่ติดลูกตุ้ม อาวุธอย่างที่สิบของวาร์ดถูกเหวี่ยงขึ้นด้านบน ตะขอแหลมรูปตัว ‘L’ ที่ปลายอีกด้านเจาะกับช่องว่างของอิฐเพดานพอดิบพอดีช่วยรั้งร่างหัวหน้าเงารัตติกาลไม่ให้จมลงไปมากกว่านั้น
แต่เพียงเท่านี้ ก็เป็นการเปิดช่องโหว่ครั้งแรกของวาร์ดสำหรับผม
กำปั้นที่เพิ่มความแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า กับความเร็วในการพุ่งตัวดุจลูกกระสุน ผสานกันกระแทกที่ท้องของวาร์ดจนเขาตัวงอเป็นกุ้ง ยิ่งร่างถูกตรึงไว้กับพื้น แรงโจมตียิ่งสะสมเป็นสองเท่า รอยยุบเป็นวงใหญ่ที่หน้าท้องบอกถึงอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรง อวัยวะภายในแหลกเหลว กระดูกซี่โครงแตกละเอียด ร่างทรุดฮวบลงกับพื้นพร้อมลมหายใจที่หอบรวบรินและใกล้จะขาดช่วง
ซูอัลและเน็กเธอร์เดินมาสมทบ สภาพร่างกายทั้งคู่ที่ไม่มีร่องรอยของความบาดเจ็บหรือบาดแผลแม้แต่น้อยยิ่งสร้างความตกตะลึงให้วาร์ดจนสีหน้าเขาบิดเบี้ยว
“เป็นไป.. ไม่ได้”
เน็กเธอร์ยิ้มยียวน เขาเสยผมที่เริ่มไม่เป็นทรงให้เรียบพลางส่งสายตามองวาร์ดอย่างผู้มีชัย
“แต่มันก็เป็นไปแล้วเฟ้ย!! ถึงจะมี ‘พลังจากสัญลักษณ์ของดวงดาว’ สิบอย่างก็เถอะ แต่แค่เพียงคนเดียวคิดเหรอว่าจะมาสู้กับพวกฉันทุกคนได้”
เพียงแค่เห็นอาวุธแต่ละชนิดของวาร์ด เน็กเธอร์ก็รู้ทันทีว่าพลังพิเศษของหัวหน้าเงารัตติกาลคืออะไร
ดวงดาวทั้งสิบแห่งระบบสุริยจักรวาลต่างมีสัญลักษณ์ที่สอดคล้องกับลักษณะของดาวแต่ละดวง และบุคคลสำคัญของโลกที่เป็นจิตวิญญาณให้วาร์ดเชื่อมต่อเป็นใครไปไม่ได้เลย นอกจาก....
‘กาลิเลโอ กาลิเลอี’[1]
บิดาแห่งดาราศาสตร์ยุคใหม่ ผู้จับจ้องเฝ้ามองดวงดาวแต่ละดวงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันในยามค่ำคืน ดาวแต่ละดวงล้วนมีเอกลักษณ์ที่แตกต่าง และเอกลักษณ์นั้นถูกแสดงด้วยสัญลักษณ์ที่เหมาะสม สัญลักษณ์ที่แปรเปลี่ยนเป็นศาสตราวุธและพลังพิเศษของวาร์ด
ไม่มีพลังพิเศษใดเหมาะกับผู้ครองตำแหน่งหัวหน้าแห่งกองโจรชื่อก้องโลกได้ดีเท่านี้อีกแล้ว!!!
แต่บัดนี้หัวหน้าแห่งเงารัตติกาลกลับถูกพันธนาการเพื่อรอการพิพากษาความผิดบาปที่ได้กระทำมาต่อหน้าพวกเราเหล่าผู้เชื่อมต่อ
“มีอะไรจะสั่งเสียมั้ยลุง ก่อนจะไม่มีโอกาสได้พูดอะไรอีก”
สายตาของวาร์ดเหลือบมองผ่านพวกผมไปเห็นเซราห์ที่นั่งหอบเพราะฝืนใช้พลังพิเศษอย่างต่อเนื่อง คราบ ‘รังไหม’ แสงสีเขียวที่กระจัดกระจายบนพื้นทำให้เขารู้ว่าเพื่อนทั้งสองคนของผมฟื้นจากสภาพบาดเจ็บสาหัสได้อย่างไร ความแค้นส่งผ่านแววตาเย็นชาเข้ามาทิ่มแทงจนผมรู้สึกเสียวแปล๊บในจิตใจ
“ฉันควรจัดการยัยตัววุ่นวายนั่นก่อนสินะ”
สายตาวาร์ดจับจ้องไปที่เซราห์จนหญิงสาวผงะ แต่พวกผมทั้งสามคนไม่ยอมให้เขาทำอย่างนั้นแน่
ไม่สิ... พูดให้ถูกคือสภาพของวาร์ดตอนนี้คงไม่มีโอกาสทำแบบนั้นได้อีกแล้ว
“ถ้าสงบเสงี่ยมเตรียมใจรับความตาย ก็จะให้ตายสบาย ๆ อยู่หรอก แต่ยังปากดีอยู่แบบนี้ฉันก็ไม่รู้จะเก็บแกไว้ทำอะไร” เน็กเธอร์ใช้ฝ่ามือกดที่ศีรษะหัวหน้าเงารัตติกาล “จมหายไปกับพื้นซะ.. X-Ray!!!”
ร่างสะบักสะบอมของวาร์ดถูกเน็กเธอร์ใช้พลังพิเศษฝังทั้งเป็นอยู่ใต้พื้นปราสาทหลังใหญ่นี้
ทั้งหัวหน้า รองหัวหน้า และนักฆ่าระดับสูงของเงารัตติกาลถูกจัดการจนสิ้น บัดนี้กองโจรชื่อก้องโลกถูกทำลายลงแล้ว ผมอยากเอาข่าวดีนี้ไปบอกคาซีเร็ว ๆ เหลือเกิน
ซูอัลรีบหันหลังกลับเพื่อไปประคองเซราห์ที่ใกล้จะหมดสติ แต่แล้วเขากลับต้องชะงักเท้าและเบิกตาค้าง
“ฉันควรจัดการ ยัย ตัว วุ่น วาย นี่ ก่อน สิ นะ!!”
“เซราห์ ระวัง!!!”
เสียงตะโกนไม่ทันการณ์ ซูอัลรีบพุ่งตัวด้วยความเร็วที่ถูกเพิ่มจากตารางแสง ส่งให้ร่างเคลื่อนที่ได้เร็วปานสายฟ้า ท่อนแขนล่ำโอบกระชับร่างเซราห์และเอาตัวเข้าบังลูกธนูแสง
‘ฉึก!!’
ปลายแหลมของลูกธนูพุ่งเจาะทะลุกลางหลัง แต่ความแรงของมันกลับส่งให้ธนูแสงพุ่งเสียบเซราห์ที่ถูกปกป้องไว้อีกคนหนึ่ง ร่างของทั้งคู่ถูกตรึงติดกันด้วยลูกธนูใหญ่
“ซูอัล.. เซราห์.. ม่ายยยยย!!”
เน็กเธอร์แม้รู้ว่าผู้โจมตีคือใคร แต่ใจก็ยังไม่ยอมรับเพราะเขาเพิ่งจะสังหารชายคนนั้นไปหมาด ๆ
เพราะความวู่วามและขาดสติ ทำให้มองไม่เห็นโซ่ยาวที่เหวี่ยงหวือเข้าหาตัว ลำคอเรียวถูกรัดพันก่อนที่ปลายแหลมของตะขอจะค่อย ๆ ม้วนเข้าหา และตำแหน่งสุดท้ายของมันก็คือกึ่งกลางหน้าผากของเน็กเธอร์
ผมรีบทะยานร่างเข้าหาเน็กเธอร์ มือคว้าจับตะขอก่อนที่มันจะเจาะใบหน้าของเขาได้อย่างฉิวเฉียด แต่เพียงพริบตา มือก็ต้องปล่อยตะขอแหลม เมื่อแรงกระชากมหาศาลดึงร่างเน็กเธอร์ให้ลอยละลิ่วเข้าหาเจ้าของอาวุธโซ่
วาร์ด เยอร์มูห์ ถือเคียวขนาดใหญ่รออยู่แล้ว!!
แต่แม้อยู่ในวินาทีฉุกเฉิน เน็กเธอร์ก็ยังมีสติเพียงพอ เขาใช้พลังทะลุผ่านทันทีที่เห็นคมเคียวเหวี่ยงฟาดเข้าหา ปลายแหลมของอาวุธโค้งพุ่งผ่านร่างไปโดยไม่ทันได้สัมผัสผิวกาย
“อึก!!”
แต่ก่อนที่ร่างจะตกถึงพื้น มวลน้ำมหาศาลซึ่งพวยพุ่งจากตรีศูลสัญลักษณ์แห่งดาวเนปจูน ก็อัดแน่นเป็นก้อนกลมขังร่างเน็กเธอร์ไว้ด้านใน ไม่ว่าเน็กเธอร์จะเคลื่อนกายไปที่ใด ก้อนน้ำขนาดใหญ่ก็เคลื่อนตามไปตลอด ระยะเวลาที่พลังพิเศษทะลุผ่านจะกลับคืนสู่สภาพเดิมใกล้เข้ามาทุกขณะ
สายตาเน็กเธอร์มองหันกลับมาราวกับจะฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ผม เพียงครู่เดียวฟองอากาศก็ผุดจากปากเป็นสัญญาณว่าร่างกายเขากลับสู่สภาพปกติแล้ว
เน็กเธอร์กำลังอยู่ในสภาพ ‘จมน้ำ!!’
สีหน้าเรียบเฉยส่งสายตาคมกริบราวกับใบมีดจนผมชะงักงัน
“แค่จัดการ ‘เงาสะท้อน’ ของฉันได้ คิดว่าพวกแกจะล้มล้างเงารัตติกาลได้แล้วอย่างนั้นหรือ”
กระจกเงาขนาดเล็กในมือวาร์ด ฉายภาพสะท้อนสีหน้าที่ตกตะลึงของผมออกมาอย่างชัดเจน สัญลักษณ์ของดาวศุกร์ ที่สามารถสร้างร่างเงาสะท้อนทำให้พวกเราเข้าใจผิดคิดว่าร่างที่ถูกจัดการไปคือวาร์ดตัวจริง คิดได้แบบนี้ยิ่งทำให้ผมแทบไม่มีแรงยืน
แต่ภาพของซูอัลและเซราห์ที่ถูกเสียบร่างด้วยลูกธนูแสง
ภาพของเน็กเธอร์ที่อึดอัดทรมานจนใกล้จะขาดใจ
ทำให้สองขาที่หมดแรงตั้งตรงมั่นได้อีกครั้ง...
“เนเปียร์โบนส์!!”
ผมสร้างตารางแสงขนาดใหญ่และวิ่งผ่านมันด้วยความมุ่งมั่น ร่างอาบไล้ด้วยแสงสีเหลืองนวลบริสุทธ์เปล่งประจายเจิดจ้าราวดวงตะวัน ความเร็วที่กลับเป็นปกติกลับถูกกระตุ้นให้เร่งขึ้นเป็นสิบเท่าอีกครั้ง
แต่ความเร็วนี้ไม่ได้มีแต่ผมเพียงคนเดียวที่ใช้ได้…
ไม้เท้าแห่งดาวพุธถูกสร้างในมือ แสงสีฟ้าเปล่งประกายสว่างจ้าทัดเทียมกัน แต่สิ่งที่วาร์ดเหนือกว่าคือความเร็วในการเคลื่อนที่
“หลีกไป!!”
ผมตะโกนก้องพลางระดมซัดหมัดเป็นชุด พายุหมัดรวดเร็วจนมองเห็นเพียงประกายวับวาบราวแสงไฟกระพริบ
วาร์ดเพียงปัดป้องเบา ๆ การโจมตีทั้งหมดก็ถูกเบี่ยงทิศทาง ผมมุดร่างเตะกวาดที่ข้อเท้าของเขา แต่โล่ขนาดใหญ่กลับตั้งรับการโจมตีอย่างมั่นเหมาะ หอกแหลมแทงเข้าใส่ร่างที่ไร้สิ่งป้องกันจนผมต้องขยับตัวซ้ายขวาหลบเป็นพัลวัน หนึ่งเสือกแทง หนึ่งปัดป้อง โล่และหอกสัญลักษณ์แห่งดาวอังคารในมือทั้งสองของวาร์ดไร้ซึ่งช่องโหว่
“ก็ลองทำให้ข้าหลีกดูสิ”
สองศาตราวุธสลายราวหมอกควัน ก่อนประกายสายฟ้าจะแลบแปลบปลาบบนฝ่ามือใหญ่ของหัวหน้าเงารัตติกาล วาร์ดทาบฝ่ามือลงบนพื้น สายฟ้าลามเลียแผ่เป็นวงกว้างราวใยแมงมุม ผมรีบกระโดดหลบไม่คิดชีวิต แต่โซ่เส้นยาวก็ถูกเหวี่ยงขึ้นมารัดข้อเท้าและกระชากผมลงมากระแทกพื้นอย่างแรงจนผมจุกจนตัวงอ
“เน็ก.. เธอร์ ซูอัล... เซ.. ราห์”
แม้อยู่ใกล้เพียงเอื้อมมือ ผมกลับช่วยเหลือพวกเขาไม่ได้ ความตั้งใจที่มีไม่อาจทำให้เป็นจริง
ผมช่างกระจอกสิ้นดี...
น้ำตาที่ไหลอาบแก้มไม่ใช่เพราะเสียใจกับความอ่อนด้อยไร้ฝีมือของตน แต่เพราะพลังที่มีไม่สามารถช่วยเหลือเพื่อนทั้งสามได้
ผมภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตหรือสิ่งใดก็ยอม ขอเพียงให้ช่วยเพื่อนทั้งสามให้ได้
พระผู้เป็นเจ้า...
สายตาที่พร่าเลือนเบิกกว้าง เมื่อคำขอสัมฤทธิ์ผล
ร่างเน็กเธอร์ลอยจากคุกน้ำราวติดปีก เขาสำลักจนน้ำหูน้ำตาไหล ก่อนมองร่างตัวเองอย่างแปลกใจที่อยู่ดี ๆ ก็ลอยได้ราวกับ ‘ไร้แรงโน้มถ่วง’
ลูกธนูแสงกลายเป็นก้อนแสงดวงเล็กคล้ายหิ่งห้อย ก่อนไหลเลื่อนจากร่างของเซราห์และซูอัลเข้าสู่ ‘ปากกระบอกปืนคู่’ ปล่อยร่างของทั้งคู่ให้นอนกอดประคองกันอย่างไม่ได้สติ
ผมภาวนาต่อพระผู้เป็นเจ้า
แต่ผู้ตอบรับคำขอ กลับเป็นชายสองคนที่มีรังสีอำมหิตยิ่งกว่าซาตานจากขุมนรก...
คาซีและชายผมยาวที่ผมไม่รู้จัก จ้องหัวหน้าเงารัตติกาลราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ!!!
มีคำกล่าวเปรียบเปรยว่า ดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจ
อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ ถูกส่งผ่านจากดวงตาได้ดีกว่าคำพูดนับร้อยพัน
และหากผู้ที่ได้จ้องมองดวงตาสามารถรับความรู้สึกได้แล้วล่ะก็ วาร์ดคงรู้สึกเหมือนถูกมีดแหลมคมกรีดแทงทั่วร่างจนขาดวิ่นไม่มีชิ้นดี
จากดวงตาของผู้ที่มีจุดยืนเดียวกัน ....
โค่นล้มเงารัตติกาลให้สิ้นซาก!!!
“Newton’s Gravity!!!”
“ปลดปล่อย!!”
แรงโน้มถ่วงจากด้านบนไหลเคลื่อนลงมากดทับด้วยน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจนมวลอากาศบิดเบี้ยวเห็นชัดด้วยตาเปล่า
ธนูแสงที่ถูกดูดมาไว้ในกระบอกปืน ถูกปลดปล่อยออกมาในรูปแบบเดียวกัน ทั้งรูปร่าง ขนาด ความเร็วและความรุนแรงไม่ผิดเพี้ยนจากเมื่อครั้งที่วาร์ดจู่โจมเซราห์และซูอัล
ไร้ความปรานี...
ไร้ความลังเล...
การโจมตีที่รุนแรงถูกปลดปล่อยทันทีที่เห็นศัตรูคู่อาฆาตยืนอยู่ตรงหน้า
แต่ระดับหัวหน้าเงารัตติกาลย่อมไม่พลาดให้กับการโจมตีซึ่งหน้าแบบนี้ วาร์ดสร้างโล่ดาวอังคารขึ้นรับลูกธนูแสง ก่อนใช้ไม้เท้าดาวพุธเร่งความเร็วของตัวเองเคลื่อนหลบตำแหน่งแรงโน้มถ่วงที่กดทับลงมา แม้พลังของผู้เชื่อมต่อทั้งสองจะรุนแรงเพียงใด แต่หากไม่สัมผัสผิวกายก็ไม่อาจทำอันตรายวาร์ดได้
ตรีศูลแห่งดาวเนปจูนเล่มยาวกวัดแกว่งส่งเสียงฟึ่บฟั่บในอากาศ สายน้ำพวยพุ่งสาดซัดซ่านกระเซ็นจนละอองน้ำพร่างพราย แรงดันน้ำมหาศาลราวคลื่นยักษ์สึนามิถาโถมเข้าใส่ผู้เชื่อมต่อทั้งสอง
“Absorption!!”
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ต่างจากลูกธนูแสง นอกจากวัตถุแล้วแดเนียลสามารถดูดกลืนพลังงานทุกอย่างเข้ามาเป็นพลังของตัวเองได้ด้วยพลังพิเศษอย่างที่สอง มวลน้ำมหาศาลถูกปืนลูกโม่ดูดเข้ามาสู่ลำกล้องราวเครื่องสูบน้ำ วาร์ดเองแม้รู้ถึงพลังพิเศษของอดีตรองหัวหน้าดีอยู่แล้ว แต่ก็ไม่คาดว่าแดเนียลจะสามารถดูดกลืนมวลน้ำมหาศาลทั้งหมดได้โดยง่ายดายเพียงนี้
“ปลดปล่อย!!”
คลื่นยักษ์เปลี่ยนทิศทางพุ่งย้อนกลับไปยังเจ้าของพลัง วาร์ดสบถเบา ๆ เมื่อเห็นพลังของตนกลับมาทำร้ายตัวเองแบบนี้ บอลกลมสีแดงเจิดจ้าในมือถูกสร้างในพริบตาพร้อมการแผ่พุ่งของคลื่นความร้อนมหาศาล
‘ฟู่!!!’
วาร์ดยื่นมือที่มีลูกบอลพลังพระอาทิตย์ออกมาด้านหน้า เพียงคลื่นน้ำสัมผัสรังสีความร้อน ก็พลันเปลี่ยนสถานะจากของเหลวเป็นไอน้ำในทันที
ต่อให้มวลน้ำจะมากมายเพียงใด
ต่อให้การไหลหลั่งจากปากกระบอกปืนจะรุนแรงแค่ไหน
ก็ไม่อาจทำอันตรายวาร์ดได้แม้แต่น้อย
รอยยิ้มเหี้ยมเกรียมปรากฏบนใบหน้า หัวหน้าเงารัตติกาลจ้องมองแดเนียลอย่างเดือดดาล เขาตั้งใจส่ง SSS ไอโซเทอมของแลงเมียร์ไปให้แดเนียล เพื่อหวังให้รองหัวหน้าหนุ่มใช้จัดการเหล่าผู้เชื่อมต่อทั้งห้า จากนั้นก็กำจัดทิ้งในฐานะผู้ทรยศ แต่แทนที่แดเนียลจะเดินตามหมากที่เขาวางไว้ ชายหนุ่มกลับร่วมมือกับศัตรูและหันมาแว้งกัดเขาแบบนี้ ความผิดบาปมหันต์ที่แดเนียลทำจึงสมควรได้รับการชำระอย่างสาสม
อีกเพียงนิดเดียว คลื่นน้ำที่ถูกดูดกลืนก็จะระเหยจนหมด วาร์ดเตรียมสร้างเคียวยักษ์เพื่อเกี่ยวคร่าชีวิตหมากที่ใช้การไม่ได้อย่างแดเนียล สายน้ำครามพยายามถาโถมเข้าใส่แต่ก็ต้องถูกบอลเพลิงสลายการโจมตีไปจนสิ้น วาร์ดหัวเราะร่าอย่างพึงใจ
กลับเป็นแดเนียลที่ปรากฏรอยยิ้มเหยียดส่งมา!!
การโจมตีสวนกลับด้วยคลื่นน้ำคงไม่อาจทำอันตรายเจ้าของพลังได้
หากการโจมตีมีแค่หนึ่งเดียว...
ความร้อนจากพลังเพลิงแม้จะสลายคลื่นน้ำได้ แต่ไม่อาจสลายพลังที่มองไม่เห็นและไม่มีตัวตนอย่าง ‘แรงโน้มถ่วง’ ได้
ปืนลูกโม่อีกกระบอกดูดกลืนแรงโน้มถ่วงของคาซีและปลดปล่อยแฝงมากับคลื่นน้ำ วาร์ดที่มองเห็นเพียงพลังน้ำของตนเองไม่รู้ถึงแผนการณ์ที่คาซีและแดเนียลวางเอาไว้ ร่างจึงถูกแรงโน้มถ่วงกดทับจนล้มกองกับพื้นทันที
เพียงช่องโหว่เดียวที่เกิดขึ้น การโจมตีชุดใหญ่ก็ระดมใส่หัวหน้าแห่งเงารัตติกาลอย่างไม่รอช้า
คาซีเพิ่มพลังแรงโน้มถ่วงกดทับร่างที่นอนหมอบจนไม่อาจยันกายลุกขึ้นมาได้
แดเนียลรีบบรรจุกระสุนปืนก่อนรัวนิ้วลั่นไกส่งลูกตะกั่วเข้าใส่วาร์ดเป็นชุด พันธนาการจากคาซีทำให้วาร์ดไม่อาจหลบเลี่ยงหลีกหนีไปไหน การรุกรับสอดประสานราวกับทั้งคู่คือสหายร่วมศึกมาอย่างช้านาน
“ปลดขีดจำกัดสปิริต!!”
เส้นวงกลมถูกวาดล้อมรอบตัววาร์ด ก่อนที่เส้นตรงสองเส้นจะลากตัดผ่านเป็นรูปตัว ‘X’ โดยมีวาร์ดเป็นจุดศูนย์กลาง
“Earth Latitude/Longitude!!!”
กระสุนสังหารยังไม่ลดความเร็ว มันยังคงพุ่งเข้าใส่เป้าหมายไม่เปลี่ยนแปลงทิศทาง แม้รูปร่างจะเป็นเพียงก้อนตะกั่วกลม แต่แรงขับดันจากปากกระบอกปืนส่งให้พลังทำลายของมันสามารถทะลุทะลวงร่างเนื้อของมนุษย์อย่างง่ายดายไม่ต่างจากเข็มแหลมที่ทิ่มแทงบนผ้าผืนบาง
‘ฉึก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ’
กระสุนสังหารทำงานอย่างแม่นยำ ร่างบนพื้นถูกกระหน่ำยิงใส่จนพรุนเป็นรังผึ้ง เลือดไหลย้อมชโลมพื้นทางเดินเป็นแอ่งกว้าง ลมหายใจกระตุกเบา ๆ เพียงไม่กี่ครั้งก่อนร่างนั้นจะแน่นิ่งพร้อมดวงวิญญาณที่หลุดลอย
แต่สีหน้าคาซีกับซีดเผือด
แม้ชุดที่สวมใส่จะเป็นสูทสีดำสนิทเหมือนกัน แต่รูปร่าง ทรงผม และความรู้สึกที่ส่งผ่านจากร่างไร้วิญญาณนั้นกลับเป็นความรู้สึกที่เขาคุ้นชินเป็นอย่างดี
สองเท้าเดินเปะปะเข้าหาศพที่นอนคว่ำหน้าอยู่ เข่าทรุดลงกับพื้นก่อนใช้มือประคองร่างพลิกขึ้น และเมื่อเห็นใบหน้าซีดของร่างที่จมกองเลือด คาซีก็รู้สึกเหมือนหัวใจถูกกระชากจากอก
“ไม่.. จริง เน็กเธอร์!!!”
แม้แรกพบจะเริ่มต้นด้วยความเข้าใจผิด แถมตลอดระยะเวลาการเดินทางที่ผ่านมา เขากับเน็กเธอร์จะกระทบกระทั่งกันโดยตลอด แต่มิตรภาพที่ก่อตัวขึ้นในจิตใจทำให้คาซีไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่าผู้ชายที่อยู่ในอ้อมแขนเขาคือเพื่อนที่เขารักที่สุดคนหนึ่ง
วาร์ดยืนกอดอกมองสภาพอันน่าสังเวชของคาซีและเน็กเธอร์ พลังระดับปลดขีดจำกัดของเขาเมื่อเทียบกับเหล่าผู้เชื่อมต่อทุกคนที่สามารถใช้พลังขั้นนี้ได้ นับว่าอยู่ในระดับต่ำมาก เพราะพลังสัญลักษณ์ของดาวเคราะห์สีน้ำเงินที่มนุษย์ทุกผู้อาศัยอยู่ เป็นเพียงการ ‘สลับตำแหน่ง’ ของตนเองกับผู้อื่นด้วยการเคลื่อนเปลี่ยนของเส้น ‘ละติจูด’ และ ‘ลองติจูด’ เท่านั้น แต่เมื่อรวมกับพลังพิเศษของดวงดาวอีกเก้าดวงที่เหลือ คงไม่มีคำใดจะอธิบายความร้ายกาจของหัวหน้าเงารัตติกาลผู้นี้ได้ดีไปกว่าคำว่า...
ไร้เทียมทาน!!
กระจกเงาถูกสร้างในอากาศ ภาพสะท้อนบนกระจกคือภาพของวาร์ด และเพียงแค่พริบตา ร่างที่เคยมีอยู่หนึ่งกลับเพิ่มขึ้นมาเป็นสอง
แค่เพียงหนึ่ง ก็สามารถโค่นล้มเหล่าผู้เชื่อมต่อได้ไม่ยาก ยิ่งมีสอง ความน่าสะพรึงกลัวยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นทบทวี
แต่วินาทีนี้ ความน่ากลัวของวาร์ดไม่อยู่ในสมองของคาซีอีกแล้ว!!
เขาวางร่างเน็กเธอร์ลงอย่างเบามือ ความแค้นเรื่องครอบครัวที่ถมทับในจิตใจจนหนักอึ้ง ยิ่งเพิ่มน้ำหนักด้วยความตายของเพื่อน ร่างกายเคลื่อนก่อนความคิด เพียงแค่กระพริบตาก่อนที่วาร์ดร่างเงาจะทันได้เรียกใช้อาวุธจากดวงดาว มือเรียวก็คว้าหมับที่คอพร้อมพาร่างใหญ่พุ่งกระแทกกระจกบานหนาแตกกระจายสู่สวนกว้างด้านข้างปราสาท
จากสองรุมหนึ่งกลายเป็นการต่อสู้ตัวต่อตัว
วาร์ดร่างต้นเหลือบมองร่างแยกอย่างไม่แยแส เคียวด้ามยาวหมุนเป็นวงชวนตาลาย หากแดเนียลกระพริบตาคงกลายเป็นเหยื่อคมสังหารของอาวุธโค้งแน่
“GPS!!”
กระสุนที่ฝังค้างในร่างเน็กเธอร์ถูกควบคุมให้ลอยคว้างอีกครั้ง เมื่อเป้าหมายยังไม่ถูกสังหาร การทำงานของมันจึงยังไม่หยุดลง ห่ากระสุนกระจายตัวเป็นวงกว้างรอบห้องโถงใหญ่ ก่อนหมุนวนราวพายุเพื่อหาจังหวะจู่โจม
หนึ่ง!! สอง!! สาม!!
กระสุนสามลูกแรกพุ่งเข้าใส่วาร์ดที่อยู่ในกลางวงเพื่อหยั่งเชิง แต่เพียงแค่หัวหน้าเงารัตติกาลกวาดมือครั้งเดียว คมเคียวสังหารก็ผ่าแยกกระสุนจนขาดเป็นสองท่อน
แดเนียลเร่งสมาธิ แม้จะพอรู้ฝืมือของวาร์ดอยู่บ้าง แต่เขาไม่คิดว่าศัตรูจะร้ายกาจกว่าที่คิดมากเช่นนี้ กระสุนที่เหลือพุ่งซิกแซกไปมาเพื่อไม่ให้อีกฝ่ายจับทางถูก บางลูกเคลื่อนขึ้นลง บางลูกเคลื่อนซ้ายขวา การเคลื่อนไหวด้วยความเร็วอย่างไม่เป็นระบบระเบียบเช่นนี้ต่อให้มีดวงตารอบตัวก็ไม่อาจคาดเดาทิศทางได้
วาร์ดยืนหลับตานิ่ง มือสองข้างกระชับเคียวยาวมั่น เพียงเปิดเปลือกตา เขาก็กระโดดสุดแรงพลางตวัดเคียวตามแนวนอนรอบตัว
รัศมีสีม่วงแผ่กระจายจากร่างประหนึ่งวงคลื่นบนผิวน้ำ เพียงสัมผัสลูกตะกั่ว ห่ากระสุนนับสิบก็ถูกผ่าเป็นสองซีกร่วงกราวลงกองกับพื้นแน่นิ่ง ก่อนร่างในชุดสูทจะใช้ปลายเท้าสะกิดเพดานเบา ๆ พุ่งตัวเข้าใส่แดเนียลที่มีเพียงปืนคู่เปล่าไร้กระสุน
“ตัวเบี้ยอย่างแก มีค่าเพียงแค่เป็นตัวล่อให้หมากศัตรูทำลายทิ้งเท่านั้น!!”
เคียวใหญ่ถูกง้างราวกับน้ำหนักมหาศาลไม่เป็นอุปสรรค แดเนียลยืนนิ่งมองมัจจุราชในคราบมนุษย์พุ่งเข้าหาโดยที่สายตาไม่มีร่องรอยแห่งความตระหนก
“แต่หมากตัวคิงอย่างแก ถ้าเดินซี้ซั้วก็ถูกเบี้ยจับกินได้เหมือนกันนะ”
กระสุนที่วาร์ดคิดว่าตนทำลายไปแล้ว กลับสั่นดิกบนพื้น ก่อนพุ่งสู่ฟ้าและทะยานเข้าหาวาร์ดซึ่งยังคงลอยค้างกลางอากาศ จากกระสุนนับสิบลูก เมื่อถูกผ่าแยกเป็นสองซีก ทำให้จำนวนกระสุนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า
แม้ถูกทำลาย แต่หากยังหลงเหลือเศษเสี้ยว แดเนียลก็สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของกระสุนได้อยู่ การต่อสู้กับหนึ่งในต้นแบบ ‘เร็นเนอร์ ไมอัส’ คือตัวอย่างได้เป็นอย่างดี
วาร์ดเปรยตามองด้านหลัง แน่นอนว่าอาวุธใหญ่ในมือสามารถทำลายกระสุนที่พุ่งเข้าใส่ได้โดยง่าย แต่การเคลื่อนไหวกลางอากาศที่มีข้อจำกัดทำให้เขาไม่สามารถฟาดฟันห่ากระสุนจากทุกทิศทางได้หมดทันท่วงที หากไม่มีปีกวาร์ดย่อมไม่อาจหลบเลี่ยงการโจมตีไร้ช่องโหว่เช่นนี้ได้
เว้นเพียง..
เขาสามารถเคลื่อนที่กลางอากาศได้!!
“Uranus Heaven!!!”
เท้าเหยียบย่างกลางอากาศราวกับมีขั้นบันไดที่มองไม่เห็นสร้างเอาไว้ เคียวตวัดฟาดกระสุนจากด้านหลังสลายไปดุจหมอกควัน ก่อนปลายเท้าจะสืบเคลื่อนหมุนร่างให้พาเคียวใหญ่ฟาดมาที่ด้านหน้า คลื่นพลังสีม่วงจากคมเคียวกระแทกกระสุนอีกชุดหายตามชุดแรกไปติด ๆ
แดเนียลทำได้เพียงเบิกตาค้างอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง เพราะไม่ได้เข้าร่วมในการช่วงชิงกางเขนศักดิ์สิทธิ์ที่วอชิงตัน ดี ซี ชายหนุ่มจึงไม่มีโอกาสได้เห็นการ ‘เดินบนอากาศ’ ด้วยพลังพิเศษแห่งดาวยูเรนัส ทำให้แผนการที่วางเอาไว้มีช่องโหว่เช่นนี้
และช่องโหว่ที่ว่า ก็นำมาซึ่งหายนะที่ร้ายแรง
ตุ้มเหล็กเหนี่ยวนำโซ่เส้นยาวให้พุ่งรัดพันรอบลำคอของแดเนียล น้ำหนักของมันพาตัวเองหมุนวนอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับระยะของโซ่ที่หดสั้นลงเรื่อย ๆ ตำแหน่งสุดท้ายที่มันจะหยุดลงคือใบหน้าของชายหนุ่ม
‘เคร้ง!!’
ปืนกระบอกใหญู่ถูกยกขึ้นกันแรงกระแทกทันท่วงทีก่อนกะโหลกศีรษะจะถูกทุบจนบุบ แต่แค่นั้นไม่อาจต้านทานระลอกการโจมตีต่อเนื่องที่โหมกระหน่ำเข้าใส่ได้
วาร์ดใช้มืออีกข้างกำรอบเส้นโซ่ในมือขวา กระแสไฟฟ้าแห่งดาวพฤหัสบดีที่เปล่งประกายเจิดจ้าในมือนั้นไหลตามโซ่โลหะที่เปรียบประดุจตัวนำไฟฟ้าชั้นดีเข้าช็อตร่างแดเนียลจนชายหนุ่มผมยาวเกร็งร่างร้องครวญครางอย่างทรมาน
“เจ้าเด็กคนที่มากับแก ถ้าชั้นจำไม่ผิดมันคือลูกชายของทริมิดาศัตรูของแกไม่ใช่เหรอ”
วาร์ดเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเหยียดหยัน
“SSS ชิ้นที่สองที่อุตส่าห์ส่งไปให้ ก็น่าจะทำให้แกจัดการพวกมันได้ง่าย ๆ แล้วทำไมแกถึงร่วมมือกับศัตรูที่ฆ่าพ่อแม่ตัวเอง ประสาทเสียไปแล้วเหรอ!!”
แม้ร่างกายจะทรมานเพียงใด แต่ประกายในดวงตายังไม่ลางเลือน
“ศัตรูของฉันไม่ใช่หมอนั่น”
ปืนในมือถูกยกค้าง พลังพิเศษลำดับที่สองแสดงผลอีกครั้งเมื่อจิตใจที่มีแต่ความคั่งแค้นปะทุออกมา
“แต่เป็นทริมิดา และสมาชิกเงารัตติกาลทุกคน!!”
สายฟ้าถูกดูดเข้าสู่ปากกระบอกปืน ก่อนที่นิ้วจะเหนี่ยวไกปลดปล่อยกระแสไฟฟ้าเข้าโจมตีวาร์ดอีกครั้ง
การโจมตีรูปแบบเดิมที่เห็นหลายต่อหลายครั้ง ไม่อาจสร้างความตื่นตระหนกให้หัวหน้าเงารัตติกาลได้อีกต่อไป โล่ดาวอังคารถูกสร้างเพื่อป้องกันพลังพิเศษของตนเอง
“GPS!!”
เพราะการโจมตีที่เห็นจนชินตา ทำให้รูปแบบของมันฝังอยู่ในหัวของวาร์ด เขาคิดเพียงว่าพลังสายฟ้าจะพุ่งเข้ามาโจมตีจากทิศทางที่ปากกระบอกปืนเล็งใส่ โล่กลมขนาดใหญ่จึงถูกตั้งเพื่อป้องกันจากทางด้านหน้า โดยที่วาร์ดไม่รู้เลยว่าพลังพิเศษทั้งสองของแดเนียลสามารถแสดงผลร่วมกัน
สายฟ้าเส้นยาวไหลเลี้ยวก่อนจะกระทบโล่ ประกายสายฟ้าเจิดจ้าแยงสายตาของวาร์ดที่มองอย่างตกตะลึง
แต่มิใช่เพียงวาร์ดที่ประมาท...
หากแต่แดเนียลที่มั่นใจในพลังพิเศษทั้งสองอย่าง ก็หลงลืมพลังพิเศษระดับปลดขีดจำกัดของวาร์ดไปเช่นกัน
‘เปรี้ยง!!!’
ร่างถูกช็อตจนเสื้อผ้าขาดวิ่น ร่างกายช็อตเกร็งกระตุกไม่เป็นจังหวะ หัวใจเต้นถี่รัวราวเครื่องขุดเจาะถนน บาดแผลไหม้เกรียมปรากฏทั่วร่าง แขนขามือเท้าไม่รู้สึกและไม่อาจขยับได้
แดเนียลที่ถูกสับเปลี่ยนตำแหน่งกับวาร์ด ล้มลงกองกับพื้นหมดสภาพต่อสู้ทันที...
สองหมัด สองเท้า กระหน่ำประเคนใส่ศัตรูคู่อาฆาตอย่างไม่ยั้งมือ คาซีระดมโจมตีต่อเนื่องไม่เปิดโอกาสให้หัวหน้าเงารัตติกาลสร้างอาวุธจากดวงดาวได้ สองมือโน้มคอวาร์ดลงมารับเข่าที่ประเคนเสยเข้าที่ปลายคางจนร่างใหญ่ลอยละลิ่วสู่ท้องฟ้า
“Uranus Heaven!!”
แทนที่ร่างจะตกลงมารับการโจมตีต่ออีกชุด วาร์ดกลับหยุดยืนกลางอากาศได้อย่างน่าอัศจรรย์ด้วยพลังพิเศษแห่งดาวยูเรนัส ธนูโค้งสีเหลืองอร่ามถูกสร้างพร้อมกระสุนที่กราดยิงลงมาใส่คาซีเป็นชุด
“Newton’s Gravity!!”
คาซีเองก็ใช่จะเสียเปรียบจากตำแหน่ง แรงโน้มถ่วงถูกใช้กับตัวเองจากด้านล่าง ส่งให้ร่างสูงลอยค้างกลางอากาศหลบเลี่ยงลูกธนูแห่งดวงจันทร์ได้ง่ายดาย
เมื่อความสูงเท่ากัน การต่อสู้กลางเวหาจึงเปิดฉาก!!
อาวุธดวงดาวถูกเปลี่ยนเป็นเคียวใหญ่ที่ถนัดมือ วาร์ดก้าวเดินกลางอากาศอย่างพลิ้วไหวราวร่ายรำ เคียวในมือแกว่งไกวฟาดฟันคาซีที่ใช้แรงโน้มถ่วงบังคับร่างให้ลอยขึ้นลงหลบการโจมตีอย่างฉิวเฉียด
แต่คาซีเองใช่จะตั้งรับการโจมตีอย่างเดียว แรงโน้มถ่วงแผ่พุ่งโจมตีวาร์ดทั้งจากด้านบนและด้านล่าง หากแต่การเคลื่อนไหวของวาร์ดว่องไวเกินกว่าการไหลเคลื่อนของแรงโน้มถ่วงจะทันสัมผัสผิวกาย รอยปริแยกบนเสื้อผ้าและร่างกายเพิ่มขึ้นทีละรอย ยิ่งเวลาผ่านทั่วร่างของคาซียิ่งเต็มไปด้วยบาดแผล
กระแสลมกรรโชกแรงประหนึ่งบรรยากาศพิเศษรับรู้ได้ถึงการต่อสู้อันดุเดือด ความมืดมิดไม่ใช่อุปสรรค เพราะเพียงจิตสังหารที่แผ่พุ่งจากชายสองคนก็ทำให้อีกฝ่ายรับรู้ถึงตำแหน่งและการมีตัวตนของคู่ต่อสู้ได้เป็นอย่างดี
‘ฉัวะ!!’
แม้จะควบคุมแรงโน้มถ่วงได้อย่างแม่นยำเพียงใด แต่บาดแผลก็ทำให้สมาธิของคาซีหลุดไปช่วงหนึ่ง เคียวเล่มใหญ่เฉือนถากหน้าอกเป็นทางยาวพาดลงมาเกือบถึงสะดือ เลือดพุ่งกระเซ็นสาดเป็นสายพร้อมร่างที่ตกร่วงลงมายังพื้นดินแข็ง
วาร์ดเองรู้ดีว่าแผลแค่นั้นคงไม่ถึงแก่ชีวิต ร่างใหญ่ลอยลงมาประหนึ่งพญามัจจุราช เคียวโค้งในมือทาบทับดวงจันทร์กลมโตราวกับมีจันทร์เสี้ยวซ้อนอยู่อีกดวง โลหะสีเงินเปล่งประกายสีม่วงจาง ๆ ออกมาอย่างน่าสะอิดสะเอียน
“คาซี.. มีอา สินะ”
เคียวโค้งจ่อที่ลำคอชายหนุ่มที่บัดนี้นอนหอบหายใจอยู่บนพื้นที่แตกยุบเป็นหลุม
“นึกว่าพ่อแกจะโง่คนเดียว สุดท้ายลูกไม้ก็หล่นไม่ไกลต้นจริง ๆ”
เมื่อได้ยินคำค่อนแคะดูถูกถึงพ่อ ร่างกายที่บอบช้ำก็พลันลุกขึ้น หากแต่เคียวคมที่จ่อลำคออยู่รั้งร่างเขาเอาไว้กับพื้นดังเดิม
“แกต้องการอะไร!!”
คาซีเปิดปากพูดกับวาร์ดเป็นครั้งแรก
วาร์ดจ้องดวงตาสีเทาขุ่นมัวแล้วก็ต้องถอนหายใจด้วยความเหนื่อยหน่าย
“เกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง ความยิ่งใหญ่ เหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่ทริมิดาต้องการ แต่มันไม่เคยรู้เลยว่ายิ่งไขว่คว้าภาพลวงตาพวกนั้นมาเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีคนทุกข์ทรมานมากขึ้นเท่านั้น”
คาซีย่นคิ้ว เขาไม่เข้าใจสิ่งที่วาร์ดพูด ชายหนุ่มจ้องลงไปในดวงตาสีดำสนิทแต่ไม่อาจตีความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังดวงตาและคำพูดของวาร์ดได้
สิ่งที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ที่ทำให้วาร์ดทะยานอยากได้ตำแหน่งหัวหน้าเงารัตติกาลมากถึงเพียงนี้
หากความแค้นของแดเนียลและคาซีที่มีต่อเงารัตติกาลเกิดจากการสูญเสียครอบครัว
ความคั่งแค้นที่สุมอยู่ในจิตใจของวาร์ดก็ไม่ต่างกันนัก...
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้ว วาร์ด เยอร์มูห์ ก็เป็นเพียงพนักงานสายการบินอิสราเอล ที่มีวิถีชีวิตเยี่ยงปุถุชนทั่วไปคนหนึ่ง ลูกสาวสามคนกับภรรยาที่อ่อนวัยกว่าเกือบสิบปีทำให้ชีวิตครอบครัวของวาร์ดสมบูรณ์แบบ เช้าไปทำงาน เย็นกลับบ้านใช้เวลากับครอบครัว ทานอาหารฝีมือภรรยา สอนการบ้านให้ลูกสาวตัวน้อยที่น่ารักราวกับนางฟ้า ตกดึกเมื่อส่งลูกเข้านอนก็นั่งอ่านหนังสือเล่มโปรดก่อนฟุบหลับคาโซฟารับแขก ภาพเหล่านี้เกิดขึ้นเป็นกิจวัตร
24 ธันวาคม ในปีเดียวกัน ภรรยาและลูก ๆ ทั้งสามนั่งรอวาร์ดอยู่ที่จุดนัดพบในอาคารผู้โดยสารท่าอากาศยานเบน กูเรียน วันนี้ผู้โดยสารไม่คึกคักนักเนื่องจากเป็นวันคริสต์มาสอีฟ ผู้คนต่างใช้เวลาอยู่กับครอบครัวเพื่อสังสรรค์และพบปะญาติพี่น้องที่ไม่ได้พบกันมานาน
ครอบครัวของวาร์ดเองก็เช่นกัน เขาต่างรีบเร่งทำงานเพื่อให้เสร็จก่อนกำหนด จะได้พาภรรยาและลูกไปซื้อกับข้าวมาทำอาหารเพื่อเฉลิมฉลองวันแห่งความสุขนี้
โดยที่วาร์ดไม่อาจรู้เลย ว่าเขาจะไม่มีโอกาสพบหน้าภรรยาและลูก ในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่อีกแล้ว...
‘ตูมมมม!!!’
เสียงระเบิดดังกึกก้องกัมปนาท ตามมาด้วยเสียงหวีดร้องอย่างเสียงขวัญและตื่นตกใจของผู้คนที่วิ่งหนีตายอลหม่าน เมื่อโผล่หน้าออกจากสำนักงาน ภาพที่เห็นก็ทำให้วาร์ดแทบทรุดเข่าลงกับพื้น
อาคารผู้โดยสารถูกวางระเบิด ผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์เลือกจุดที่มีผู้คนพลุกพล่านที่สุดอย่างจุดนัดพบซุกซ่อนระเบิดไว้ในกระเป๋าก่อนวางแอบซ่อนไว้อย่างลับตา เพียงกดสวิตซ์ที่โทรศัพท์มือถือ ระเบิดก็ทำงานส่งผลให้ตัวอาคารถูกทำลายเสียหาย ผู้คนรอบบริเวณถูกแรงระเบิดฉีกกระชากร่างเป็นชิ้น ๆ อย่างน่าเอน็จอนาถ
วาร์ดเดินฝ่าฝูงชนที่กรูกันหนีออกนอกอาคาร ระยะทางระหว่างสำนักงานสายการบินถึงบริเวณจุดนัดพบห่างกันพอสมควรทำให้แต่ละย่างก้าวของวาร์ดหนักอึ้งเหมือนมีตะกั่วถ่วงอยู่ที่เท้า แต่กระนั้นภาพใบหน้าของภรรยาและลูกก็ยังคงเป็นเหมือนแรงกระตุ้นให้ชายหนุ่มก้าวเดินต่อไปโดยหวังว่าจะมีเหตุอะไรดลใจให้พวกเธอทั้งสี่ไม่ได้รออยู่ยังจุดที่นัดหมายกันไว้
ร่างบอบบางที่เอาตัวบังซากศพเด็กหญิงทั้งสามแหลกเละจนคาดเดาสภาพเดิมไม่ออก เลือดกระเซ็นซ่านย้อมตัวอาคารที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังจากแรงระเบิด แม้จะพยายามเท่าใดเพื่อปกป้องลูกน้อยด้วยสัญชาตญาณของความเป็นแม่ แต่เพราะอยู่ใกล้จุดซ่อนระเบิดที่สุด ทำให้ทั้งสี่ชีวิตถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดด้วยเหตุวินาศกรรมครั้งนี้
วาร์ดร้องไห้จนน้ำตาแทบเป็นสายเลือด
เขาต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานนับเดือนเพื่อรักษาอาการเศร้าโศกเสียใจ กระนั้นก็ยังต้องเข้ารับการบำบัดอาการทางประสาทร่วมปี
ภาพข่าวทางโทรทัศน์ประกาศแถลงการณ์ของกลุ่มผู้ก่อการร้าย ว่าทำไปเพียงเพราะต้องการล้างแค้นให้พี่น้องชนชาติเดียวกันที่ถูกทหารอิสราเอลสังหารในการสู้รบ
แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับครอบครัวชั้น!!!
คำถามนี้ดังวนเวียนสะท้อนก้องอยู่ในสมอง ต่อให้สะบัดศีรษะแรงแค่ไหนก็ไม่อาจลบมันออกไปได้
สงคราม การฆ่าฟัน การสู้รบ ความขัดแย้ง
มัน เกี่ยว อะ ไร กับ ครอบ ครัว ชั้น!!!
วาร์ดเป็นเหยื่อของภัยสงครามที่เขาไม่ได้เป็นผู้ก่อ และไม่ได้ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน เช่นเดียวกับประชาชนบริสุทธิ์ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ที่ถูกลูกหลงจากเหตุการณ์วินาศกรรมหลายต่อหลายครั้งที่เกิดขึ้นในโลกนี้ พวกเขาเหล่านั้นล้วนเพียงต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุข แต่กลับต้องมาสูญเสียชีวิต สูญเสียคนในครอบครัว เพียงเพราะความขัดแย้งของคนเพียงไม่กี่คนหรือกลุ่มคนเพียงไม่กี่กลุ่ม
ต่อให้องค์กรระดับโลกกี่ร้อยองค์กรจะเข้ามายุติปัญหา ออกมาตรการหรือแนวทางในการแก้ไขปัญหา ก็ไม่เห็นว่าสงครามหรือความขัดแย้งจะเบาบางลงเลย กลับยิ่งเพิ่มพูนความรุนแรงและแผ่ขยายไปยังทุกทวีปทั่วโลก
ทำอย่างไรจะกำจัดความขัดแย้งนี้ให้หมดไปได้ล่ะ?
ในเมื่อความขัดแย้งเกิดจากมนุษย์
หากจะกำจัดความขัดแย้งให้หมดไป...
ก็ต้องกำจัดมนุษย์ให้หมดสิ้นไปเสียก่อน!!!
เป้าหมายของวาร์ดถูกถ่ายทอดผ่านคำพูดเกรี้ยวกราดจนคาซีตกตะลึง ชื่อเสียงลาภยศที่ทริมิดาต้องการกลายเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่วาร์ดปรารถนา เมื่อทุกสิ่งในชีวิตถูกทำลาย วาร์ดก็ไม่จำเป็นต้องอยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป หากแต่เพียงก่อนที่เขาจะตาย เขาจำเป็นต้องกำจัดภัยที่อันตรายที่สุดต่อโลกใบนี้..
นั่นคือมนุษย์!!
“หากฉันได้รับพลังจากพระผู้เป็นเจ้า มนุษย์ทุกผู้บนโลกจะตกอยู่ภายใต้ความศรัทธา ศรัทธาในตัวฉันที่จะขึ้นเป็นศาสดาองค์ใหม่ของพวกมัน และเมื่อนั้น คำสอนเดียวที่ฉันจะมอบให้กับมนุษย์ทุกคน ก็คือการชำระบาปของตัวเองให้หมดสิ้น ด้วยการ ‘ฆ่าตัวตาย’ ยังไงล่ะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ”
“แกมันบ้าไปแล้ว”
วาร์ดเบิกตาโพลงราวกับคนเสียสติ
“ฉันไม่ได้บ้า!! พวกแกต่างหากที่บ้า มนุษย์ทุกคนต่างหากที่บ้า” น้ำเสียงเกรี้ยวกราดราวกับต้องการปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างในใจออกมาจนสิ้น “พ่อแกเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดไม่ใช่เหรอ ชื่อเสียงลาภยศเงินทอง ไม่ใช่เพราะต้องการสิ่งเหล่านี้หรอกเหรอ ถึงได้แย่งชิง ไขว่คว้า เข่นฆ่า จนสร้างความแค้นให้กับคนอื่นต่อไปอีกไม่รู้กี่คนต่อกี่คน”
คาซีไม่อาจเอ่ยปากได้เพราะสิ่งที่วาร์ดพูดคือความจริง
“แย่งชิง ไขว่คว้า ใครที่คิดไม่เหมือน ทำไม่เหมือน ก็ไม่ใช่พวกเดียวกัน ก็ขัดแย้งกันจนต้องฆ่าแกงกัน นี่หรือคือคนปกติที่แกพูดถึง รบราฆ่าฟันจนคนบริสุทธิ์ต้องตายตั้งเท่าไหร่เพียงเพื่อผลประโยชน์ของผู้นำเพียงคนเดียว นี่ หรือ คือ คน ปกติ ที่ แก พูด ถึง!!”
เคียวสังหารกดเข้าที่ลำคอจนบาดผิวขาวซีดเป็นทางยาว เลือดไหลซึมออกมาตามปากแผล แต่สีหน้าคาซียังนิ่งไม่แปรเปลี่ยน
“น่าเสียดายที่แกไม่ได้อยู่ดูวันสิ้นโลกด้วยคำพิพากษาของฉัน แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะเหงา เพราะอีกไม่นานฉันจะส่งเพื่อนกว่า ‘เจ็ดพันล้านคน’ ตามแกลงไปในนรก”
วาร์ดเกร็งข้อมือตวัดเคียวแหลมเพื่อตัดคอคาซีอย่างเลือดเย็น
‘กึก!!’
แต่ร่างกายกลับไม่อาจขยับได้ตามคิด เขารู้สึกเหมือนมีแรงกดจากทั้งด้านบนและด้านล่าง เมื่อหลุบตาลงต่ำมองหน้าที่เด็ดเดี่ยวคล้ายตัดสินใจได้เด็ดขาดของคาซีก็คิดได้ว่าตนเองพลาดไปแล้ว
เมฆหนาที่แผ่ปกคลุมราวกับหลังคาท้องฟ้าพลันแตกกระจาย เมื่อวัตถุจากนอกโลกพุ่งลงมาด้วยความเร็วมหาศาล ประกายไฟจากแรงเสียดสีกับชั้นบรรยากาศส่งให้หินก้อนเท่ารถยนต์ลุกไหม้เป็นลูกไฟ
และตำแหน่งที่มันตกลงมาคือตำแหน่งที่วาร์ดยืนอยู่
“แก.. แกจะบ้าหรือไง ถ้าทำแบบนี้คนที่จะตายไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวนะ”
วาร์ดเอ่ยปากพูดอย่างยากลำบาก แรงโน้มถ่วงจากสองทิศทางที่พันธนาการเขาไว้ ย่อมไม่ได้ส่งผลต่อตัวเขาเพียงคนเดียว แต่คาซีที่นอนแผ่อยู่นั้นก็ต้องได้รับผลกระทบด้วย
นั่นหมายความว่าอุกกาบาตที่เกิดจากพลังพิเศษระดับปลดขีดจำกัดของคาซี จะตกลงมาบดขยี้ร่างของชายหนุ่มไปพร้อมกับเขา
“ถ้าแลกกับเจ็ดพันกว่าล้านชีวิต ชั้นว่าแค่สองชีวิต มัน คุ้ม ว่ะ!!”
รอยยิ้มบางคล้ายยอมรับความตายผุดขึ้นที่ริมฝีปาก ปอยผมเทาตกลู่ ใบหน้าและร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลไม่เหลือสภาพชายหนุ่มรูปงามราวเทพสวรรค์ แต่กระนั้นจิตใจอันกล้าแกร่งของคาซีที่ต้องการหยุดยั้งความเลวร้ายของหัวหน้าเงารัตติกาล ก็ทำให้เขาดูยิ่งใหญ่ขึ้นมาในสายตาของวาร์ดทันที
อันที่จริง วาร์ดที่ต่อสู้อยู่กับคาซีนี้ เป็นเพียงวาร์ดที่สะท้อนจากกระจกเงาเท่านั้น แม้จะถูกอุกกาบาตโจมตีจนตายไป ก็ไม่ส่งผลกระทบถึงร่างจริงที่ยังคงอยู่ในปราสาทอยู่ดี
แต่ถึงอย่างนั้นความคิด ความรู้สึก และจิตใจของร่างเงาก็ไม่แตกต่างจากตัวจริง การไม่ยอมรับความตายจนกว่าจะได้ทำตามเป้าหมายก็เหมือนกันไปด้วย
“Sun!! Moon!! Mercury!! Venus!! Mars!! Jupiter!! Saturn!! Uranus!! Neptune!! Pluto!!”
สิบพลังพิเศษแห่งดวงดาวถูกใช้งานพร้อมกันอย่างที่ไม่เคยมาก่อน ก่อกำเนิดเป็นพลังงานมหาศาลที่พวยพุ่งจากร่างของวาร์ดเพื่อหยุดยั้งอุกกาบาตที่ใกล้พื้นโลกเข้ามาทุกขณะ
หนึ่งพุ่งตก
หนึ่งผลักดัน
คาซีเร่งกำลังเต็มที่บังคับอุกกาบาตให้ฝ่ากระแสพลังของวาร์ดเข้ามาเพื่อบดขยี้และหยุดยั้งความเลวร้ายทั้งมวล
“ไม่มีทางหรอก ไอ้หนู ย้ากกกกกกกกก!!!!”
วาร์ดอัดกระแทกคลื่นพลังทั้งหมดในคราวเดียว สัญลักษณ์ประจำดวงดาวหมุนวนรอบคลื่นพลังก่อกำเนิดเป็นศาตราวุธทั้งสิบ เกลียวคลื่นแห่งสัญลักษณ์ไหลเลื่อนตามกระแสพลังเส้นยาวก่อนพุ่งเข้ากระแทกอุกกาบาตก้อนใหญ่ให้แตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยตกลงมาสู่พื้นสร้างแรงสั่นสะเทือนมหาศาล บางลูกพุ่งเข้าโจมตีปราสาทจนปราสาทหลังใหญ่อันงดงามเว้าแหว่งไม่ต่างจากเนยถูกหนูแทะ
วาร์ดมองมือตัวเองทั้งสองข้างที่ซีดจางและกำลังจะสลายไปเพราะใช้พลังพิเศษมากเกินกว่าร่างกายจะรับไหว เพียงไม่นานร่างก็ระเหยเป็นไอราวกับน้ำถูกความร้อน
ส่วนคาซีเองก็ถูกแรงกระแทกจากพลังอุกกาบาตจนสลบไสลไม่ได้สติ
ภายในปราสาท แรงสั่นสะเทือนทำให้ทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวคล้ายนาฬิกาหยุดเดิน
แต่เมื่อทุกอย่างเงียบสงบ รอยยิ้มของวาร์ดตัวจริงก็ผุดขึ้นทันทีที่มองรอบตัว
“เนเปียร์โบนส์ ต้นแอปเปิ้ลของนิวตัน กระดาษฉาบแบเรียมปลาติโนไซยาไนต์ เหรียญทองของนิโคลัส ฟอสซิลของดาร์วิน อุปกรณ์ตรวจจับของเคิร์ชเนอร์ และไอโซเทอมของแลงเมียร์... SSS ทุกชิ้นที่ถูกขโมยไปบัดนี้กลับคืนมาสู่มือของเงารัตติกาลแล้ว”
ผมกำเนเปียร์โบนส์แน่น จริงอยู่ว่าวาร์ดยังไม่ได้ชิง SSS ของพวกเราทุกคนไป แต่ถึงอย่างนั้นสภาพของแต่ละคนก็ไม่อาจต่อกรกับวาร์ดได้หากเขาคิดจะแย่งชิง
“แต่ก็ไม่จำเป็น ฉันไม่ต้องการ SSS กระจอกพวกนี้อีกแล้ว เมื่อ SSS ชิ้นที่ยิ่งใหญ่ที่จะมอบพลังแห่งพระผู้เป็นเจ้า อยู่ในเงื้อมมือของฉันเรียบร้อย”
วาร์ดหัวเราะร่า เป้าหมายที่เฝ้ารอคอยมานานใกล้จะบรรลุผล อีกเพียงแค่วันเดียวหากร่างได้ทาบทับลงบนกางเขนศักดิ์สิทธิ์ จิตวิญญาณแห่งพระผู้เป็นเจ้าก็จะมอบพลังอันวิเศษสุดที่ไร้ผู้ต้านทานให้กับเขา
“แต่เพื่อไม่ประมาท ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้มีอุปสรรคเพียงเล็กน้อยเกิดขึ้นขณะทำพิธี”
เคียวยักษ์ถูกสร้างขึ้นในมืออย่างน่าสะพรึงกลัว นอกจากเน็กเธอร์แล้ว เหล่าผู้เชื่อมต่อคนอื่นยังคงมีชีวิตอยู่ วาร์ดมองไปที่ซูอัลและเซราห์ที่นอนหอบหายใจรวยรินใกล้จะสิ้นใจ สองขาย่างกรายเข้าหาดุจมัจจุราชที่พร้อมจะกระชากวิญญาณของทั้งคู่ออกจากร่าง
‘ไม่นะ!!’
ผมร้องตะโกนในใจ ร่างกายที่อ่อนล้าเพราะฝืนใช้พลังพิเศษอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เข้ามาในปราสาทแห่งนี้ รวมถึงบาดแผลจากการต่อสู้ทำให้ผมไม่สามารถเคลื่อนไหวเพื่อไปช่วยเหลือเพื่อนทั้งสองได้
‘หยุดนะ!!’
จิตใจตะโกนก้องอย่างบ้าคลั่ง ดวงตาที่จะปิดแหล่มิปิดแหล่มองเห็นเพียงแผ่นหลังของวาร์ดกับอาวุธโค้งขนาดใหญ่ในมือที่กวัดแกว่งไปมาเบา ๆ
‘ใครก็ได้ ขอพลังให้ผมที’
คำภาวนาครั้งสุดท้ายดังขึ้นเพื่อหวังให้เกิดปาฏิหาริย์ ใบหน้าของเน็กเธอร์ที่ดวงตายังเบิกค้างแต่ไร้แววแห่งชีวิตยิ่งทำให้จิตใจผมสั่นสะท้าน ผมไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้อีกแล้วไม่ว่ากับใครทั้งนั้น
‘จอห์น เนเปียร์.. ขอพลังให้ผมด้วย…’
เอี๊ยด... อ๊าด...
เสียงเก้าอี้โยกแผ่วเบาลอยตามสายลมจากช่องหน้าต่างเข้าสู่โสตประสาท ดวงตาที่ใกล้ปิดพลันเหลือบมองตาม ผมเห็นรอยยิ้มอ่อนโยนของชายชราที่มอบพลังพิเศษให้
“เจ้าอยากได้พลังงั้นเหรอ”
ผมพยักหน้ารัว จอห์นยังคงโยกเก้าอี้ไม้ช้า ๆ แต่สีหน้าเขากลับแฝงความหวั่นไหว
“แต่หากเจ้าใช้พลังนี้.. เจ้าจะไม่สามารถใช้พลังพิเศษของเนเปียร์โบนส์ได้อีกต่อไป”
ผมอ้าปากค้าง
“ไม่สามารถใช้พลังได้อีก.. อย่างนั้นเหรอครับ”
ชายชราพยักหน้าช้า ๆ
“ยังอยากจะได้พลังอีกมั้ย”
ผมเหลียวมองรอบกาย เพื่อนทุกคนไม่อยู่ในสภาพต่อสู้ได้อีกแล้ว ชายผมยาวที่ร่วมต่อสู้ก็มีสภาพไม่แตกต่าง เน็กเธอร์คือศพที่หนึ่ง และเพื่อนที่ผมรักทุกคนกำลังจะเป็นศพที่สอง ที่สาม และศพต่อมา
สายตามองผ่านช่องว่างของบานกระจก เห็นร่างคาซีนอนแน่นิ่งอย่างไม่รู้เป็นหรือตาย มือชื้นเหงื่อกำแท่งไม้เล็กแน่นพลางตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
“ผมยอมครับ!!”
จอห์น เนเปียร์ส่งยิ้มให้เป็นครั้งสุดท้าย เสียงเก้าอี้ไม้หยุดลง เพียงกระพริบตาร่างที่นั่งโยกเก้าอี้อยู่ก็พลันหายไป
แต่เขาไม่ได้หายไปเฉย ๆ ชายชรากลับมอบบางสิ่งบางอย่างทิ้งไว้ให้
ผมรู้สึกได้จากสัมผัสที่แตกต่างจากท่อนไม้ในมือ
“ปลดขีดจำกัดสปิริต!!”
เสียงตะโกนก้องทำให้วาร์ดชะงักเท้า หัวหน้าเงารัตติกาลหันกลับมามองด้วยสายตาหวาดระแวง
“∞