การมึนตึงเฉยชาของสาวร่างเล็กที่มีต่อดาริกานั้น ทำให้สาวงามไม่สบายใจ ว่าตัวเองทำอะไรไม่เป็นที่สบอารมณ์อดรนทนไม่ได้อีกต่อไป
“เข็มฟ้าทำไมเดี๋ยวนี้เธอทำกับฉันเหมือนคนที่ไม่รู้จักกัน”
เข็มฟ้ามองด้วยสายตาเย็นชาหมางเมินหลังจากดาริกาถามขึ้น ซึ่งก็ทำให้เธอใจหาย และอดแปลกใจไม่ได้ระยะหลังมานี้เข็มฟ้าดูเปลี่ยนไป ดวงตาลึกโบ๋ แก้มตอบ ผอมลงกว่าเก่าเหมือนคนอมทุกข์อมโรค และสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุดก็คือแววตาที่จ้องมองมีแต่ความจงเกลียดจงชัง
“ก็ไม่มีอะไร ไม่อยากคุยก็ไม่คุย เกลียดคนไม่รักษาสัจจะ พูดอย่างทำอย่าง ปลิ้นปล้อนแบบนี้คงจะเจริญยาก”
ดาริกาไม่เข้าใจความหมายที่เข็มฟ้าพูดมา แต่แววตาที่มองนั้นทำให้เธอหนาว ๆ ร้อน ๆ หรือว่าเกลียดเธอที่รักกับภูผา หญิงสาวค่อนข้างมั่นใจว่าต้องเป็นเรื่องนี้แน่นอน
“เธอมีอะไรไม่สบายใจปรึกษาเราได้นะไม่ต้องเกรงใจหรอก ไหน ๆ เราก็ทำงานที่เดียวกันพักห้องเดียวกัน มีอะไรควรพูดควรบอกไม่ใช่ว่านิ่งอย่างเดียว เธอทำอย่างนี้เราเองก็ไม่สบายใจเหมือนกันมันอึดอัดไปหมด”
สาวร่างเล็กโบกมือไปมาเป็นการห้าม น้ำตาคลอจนเอ่อล้นไหลเป็นทางอาบแก้มทั้งสองข้าง เสียงสะอื้นเสียงดังลั่น ดาริกาตกใจจับมือเข็มฟ้าเอาไว้ บีบแน่นเป็นการเรียกขวัญ
“เกิดอะไรขึ้น กับเธอบอกเราซิ”
“ไม่เป็นอะไรหรอก”
แต่หญิงสาวไม่เชื่อพยายามเค้นหาคำตอบที่ชัดเจน
“เราไม่เชื่อไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ร้องเหมือนคนจะตายอย่างนี้หรอก บอกเถอะมีอะไรจะได้ช่วยกันคิด ช่วยกันแก้ไข”
เหมือนเข็มแหลมนับร้อยทิ่มแทงหัวใจ สาวร่างผอมบางเกร็งตัว เค้นเสียงเล็กแหลมออกมา
“มันคงเป็นอาการของคนที่กำลังถูกเขี่ยทิ้งมั้ง ขอทีเถอะเราอยากอยู่คนเดียว กรุณากลับไปได้แล้ว และอย่ามายุ่งกับเราอีก”
ครูสาวใจหายเห็นอาการเข็มฟ้าแล้วบอกได้เลยว่าน่าเป็นห่วง ถ้าไม่รักษาเธออาจจะเป็นมากไปกว่านี้จนถึงขั้นเป็นบ้าเลยก็ได้ เธอว่ากำลังถูกทิ้งแสดงว่ามีคนรักแล้ว และคงจะต้องมีอะไรเกินเลยมากไปกว่าเป็นคนรักธรรมดาจนถึงขั้นเสียเนื้อเสียตัว ใครกันนะคือคนรักของเธอ
หวนนึกถึงวันที่กลับจากบ้านเห็นเธอกับภูผายืนคุยกันด้วยท่าทางสนิทสนม นึกเพียงเท่านี้ใจหายวาบ ถ้าคนทั้งสองมีอะไรกันและภูผาไม่รับผิดชอบ ทิ้งเข็มฟ้าและมาสานไมตรีกับเธอนับว่าภูผาเป็นผู้ชายที่แย่มาก ๆ เธอเม้มปากน้ำตาจะร่วงให้ได้ เจ็บใจตัวเองที่ไปรักคนเช่นนี้ได้อย่างไง
ความรักที่มอบให้แก่เขาคงต้องจบลงเพียงเท่านี้คบกันไปคงไม่มีประโยชน์ เพราะทำร้ายคน ๆ หนึ่งให้เจ็บ บางทีอาจถึงตาย ตายทั้งเป็นมันเจ็บปวดทรมานสุดจะทานทน ทนไม่ได้ที่ตัวเองมีความสุขแต่อีกคนทุกข์ทรมาน หญิงสาวคิดไปสารพัดเสียงดังอึงอื้อ ความหนาวเย็นของสายลมที่กระทบผิวนั้นมันไม่เท่ากับความหนาวเยือกเย็นในใจมันหนาวสะท้านไปทั้งร่าง หายใจไม่ออกเหมือนว่าใจจะขาดเสียให้ได้
“ดา คุณเป็นอะไร ทำไมมาร้องไห้อยู่ที่นี่”
ฝ่ามือหนาจับไหล่บีบแรงๆ ให้รู้สึกตัว หญิงสาวสะบัดออกร้องไห้เสียงดังเหมือนเด็กๆ
“คุณบอกผมซิ เอาแต่ร้องไห้อย่างนี้ผมจะรู้เรื่องได้ไง ดาคุณไม่ไว้ใจผมแล้วหรือ”
เขาดึงร่างงามลุกขึ้น กอดแน่นแนบอกจูบซุกตามใบหน้า ซับน้ำตาที่เปรอะเปื้อนแต่น้ำตายังคงไหลออกมาเมื่อนึกถึงคำพูดของเข็มฟ้า เกลียดเขาที่ทำร้ายผู้หญิงได้ ในเมื่อเขาทิ้งเข็มฟ้าได้ลงคอ นับประสาอะไรกับผู้หญิงอ่อนหัดเช่นหล่อนจะไม่ถูกสลัดทิ้งเหมือนรองเท้าเก่า ๆ ที่หมดความหมาย
แต่ดาริกายอมให้เขากอดร่างบอบบางมาจนถึงกอดอกมะลิ เธอจ้องมองด้วยสายตาปวดร้าว
“เดี๋ยวนี้มะลิไม่มีดอกแล้ว ถ้ามีดอกเดี๋ยวผมจะเก็บไปฝากคุณนะครับ”
น้ำเสียงดูเหมือนจริงใจ แต่ดาริกาเสียวแปลบเมื่อนึกถึงคำพูดของเข็มฟ้า แกะมือที่กอดร่างออก ชายหนุ่มเอื้อมมือจะกอด หญิงสาวถอยห่าง
“ทำไมล่ะคุณดา คุณทำเหมือนผมเป็นตัวเชื้อโรค”
ไม่ตอบคำถาม จ้องหน้าเขาด้วยสายตาเย็นชา จนภูผารู้สึกได้ ดูเหมือนเธอห่างเหินเฉยชาจนไม่กล้าเข้าใกล้
“เข็มฟ้าบอกว่าเธอกำลังถูกทิ้ง”
ชายหนุ่มงุนงงต่อคำพูดหล่อนมากมองใบหน้าสวยอย่างแปลกใจ
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณล่ะดา ถึงได้ร้องไห้เป็นเต่าเผาอย่างนี้”